ใครจะแน่ คนหรือคอม (Human Vs Computer)

                 Alan Turing 

                จิต ในจิต: แปล-เรียบเรียง 

                      (จาก Deep English)

     ตั้งแต่ ปี 1950  มาแล้ว ที่คนได้กล่าวถึงคอมพิวเตอร์ว่า จะเป็นอุปกรณ์ที่เฉลียวฉลาด แต่..บางคนบอกว่า มันเป็นแบบนั้นแล้วล่ะ..!!!

         เราจะบอกความแตกต่างระหว่างคนกับคอมพิวเตอร์ได้ไหม. เพราะดูเหมือนว่ามันจะฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะแยกไม่ออกว่า ใครเป็นใคร 

         ในปี 1950 นั้น นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งชื่อ อลัน ทัวริง (Alan Turing) ได้ทำนายว่าเครื่องจักรกล (Machine) จะเฉลียวฉลาด จนถึงกับคิดได้เองสักวันหนึ่ง..

           ครั้งหนึ่งเขาได้ทำชุดทดสอบชื่อ Turing test เสร็จแล้วให้คอมพิวเตอร์นี้ไปทำข้อสอบ จนหลอกคนได้ว่าผลการทดสอบนี้ เป็นฝีมือมนุษย์ไม่ใช่คอมพิวเตอร์

            ล่าสุด..มีโรบอตที่ชื่อ Cleverbot ได้ไปทำการทดสอบแบบทดสอบนี้เช่นกัน 

ผู้ประดิษฐ์โรบอตคือ รอลโล คาร์เพนเตอร์ (Rollo Carpenter) ซึ่งผลิตขึ้นในปี 1987  มันเป็นโรบอต (Robot) ที่มีโปรแกรมสำหรับเรียนรู้การสื่อสาร จากการพูดคุยกับคน

           แรกที่เริ่มสร้าง Cleverbot มันไม่สามารถเรียนรู้คำต่าง ๆ ที่ใช้ในการสนทนาได้  เพียงแต่โปรแกรมได้บันทึกถ้อยคำไว้ทั้งหมด เช่น ถ้าคนพูดว่า “hello” Cleverbot ก็จะเรียนรู้คำว่า “hello” ถ้าเป็นวลีเช่น  “How are you ?” มันก็จะเรียนรู้และบันทึกไว้เช่นกัน

                                    Rollo Carpenter 

            นอกจากนี้ คาร์เพนเตอร์ ยังได้อาศัยเพื่อน ๆ มาร่วมสนทนากับบอต (bot) เครื่องนี้ด้วย 

            แต่ระหว่างปี 1983-1997 จักรกลเครื่องนี้ สามารถบันทึกการพูดคุยไว้ได้ไม่กี่พันครั้ง ซึ่งน้อยเกินไปที่จะทำให้มันมีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์

            ดังนั้น ในปี 1997 เขาจึงเอา Cleverbot ไปลงเว็บไซต์ เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ปรากฏว่า มันบันทึกการสนทนาจากคู่สายได้ 5 ล้านคู่สาย

             ปัจจุบัน มันตอบคำถามของผู้คนได้ถึง 200,000 คำตอบต่อชั่วโมง และใช้ถ้อยคำพูดคุยกับคนได้ถึง 3 ล้านคนต่อเดือน

              นี่เป็นการสะสมคำและข้อความ

ต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก จนดูเหมือนจะคล้ายมนุษย์เข้าไปทุกที

               ก็ลองดูซี…

               ถ้าเราลองถามอะไรสักอย่าง  มันก็จะค้นหาและเลือกคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับเรา(จากที่มันบันทึกเอาไว้) เช่น ถามว่า 

               “What is the meaning of life ? “

                 เราก็จะได้คำตอบที่ยอดเยี่ยม ที่สุด เทียบเท่ากับคำตอบที่ได้จากมนุษย์

                 ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า มันได้ยินคำถามต่างๆ จากผู้คนทั่วโลก รวมทั้งได้รับคำตอบที่สุดเจ๋งมากมาย จากการสนทนาเหล่านั้น..

                  ปัจจุบันอาจไม่มีคำตอบที่ดูเหมือนว่า ฉลาดเฉลียวเพียงอย่างเดียวแล้ว (อาจมีคำตอบแบบโง่ๆ ด้วย) แต่ทุกอย่างก็ดูคล้ายคนมาก 

                  วัน ๆ คาร์เพนเตอร์ได้รับอีเมลจากคนจำนวนมาก ซึ่งต่างก็คิดว่าเขาโกหกและไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือจากคอมพิวเตอร์จริงๆ

                   ในปีท้ายสุดนี้ Cleverbot ได้ทำข้อสอบ Turing test ผ่านฉลุย ในงานเทคโนโลยีที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันร่วมด้วยจำนวน 30 คน

                    ผลการตอบคำถาม ผ่านจอทีวีขนาดใหญ่ ซึ่งทุกครั้งที่ถาม Cleverbot ตอบได้ร้อยละ  100 ส่วนคนตอบได้ร้อยละ  59 จากคำถามทั้งหมด

                  แล้วพวกเราล่ะ !!!

                  ลองไปคุยกับเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ หรือยัง หากยัง กรุณาไปคลิกที่Cleverbot.com

                  แต่อย่าลืมว่า เจ้าบอตตัวนี้ ผ่านการสนทนากับคนที่หลากหลายมาแล้วนับล้าน ๆ คน ในจำนวนคนเหล่านี้ บางคนก็ฉลาดหลักแหลม บางคนก็โง่ดักดาน บางคนน่าสนใจ บางคนน่าเบื่อหน่าย และแน่ล่ะ บางคนแสนจะหยาบคาย 

                   มันจึงคุ้นเคยกับคำพูดเหล่านี้ แบบที่ใช้ซ้ำๆ  บ่อยๆ จนอาจทำให้เราได้พบกับคำโง่ ๆ น่าเบื่อหน่าย หยาบคาย หรือใช้สำนวนที่ยากจะเข้าใจได้จากมัน

                   มี 2 อย่างที่เราจะหลบหลีกคำพูดของมันได้คือ

                   ทางหนึ่ง ถ้าไม่เข้าใจว่ามันพูดอะไร เราก็เปลี่ยนเรื่องคุยเสีย 

                   กับอีกทางหนึ่งคือ ไปคลิกปุ่ม “Think for me” แล้วมันจะกลับไปตอบคำถามด้วยตัวมันเอง..

                   แต่ก่อนไปคุยกับหุ่นยนต์ที่แสนฉลาดตัวนี้ ช่วยตอบคำถามหน่อยเถอะว่า..

                   ระหว่างคนกับคอมพิวเตอร์ ใครแน่กว่ากัน…???