วิธีการบรรลุสัญญาแห่งการศึกษา : การตอบสนองนโยบาย 3 ประการ (How to realize education's promise:Three policy responses.)

      "ผลลัพธ์การเรียนรู้จะไม่เปลี่ยนแปลง นอกเสียจากว่า ระบบการศึกษาจะถือเอาการเรียนรู้เป็นเรื่องจริงจังและใช้การเรียนรู้นั้น เป็นแนวทางและเป็นตัวชี้วัด" 

       การเรียนรู้เพื่อบรรลุคำมั่นสัญญาของการศึกษา ได้สรุปแนวทางตอบสนองนโยบายสำคัญสามประการเพื่อแก้ไขวิกฤตการเรียนรู้ระดับโลก ดังนี้ 

        1. ประเมินการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นเป้าหมายที่สำคัญโดยการวัดผลการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ตัวชี้วัดที่เชื่อถือได้เพื่อติดตามผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน และให้แน่ใจว่าระบบการศึกษาเน้นที่การเรียนรู้จริงมากกว่าการลงทะเบียนและการเข้าเรียนเท่านั้น

         2. ดำเนินการตามหลักฐาน ปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผล ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงทักษะและแรงจูงใจของครู การรับรองว่าทรัพยากรทางการศึกษาเข้าถึงห้องเรียน และการใช้ข้อมูลเพื่อแจ้งการตัดสินใจ

           3. ปรับแนวผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้แน่ใจว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในระบบการศึกษากำลังทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ซึ่งหมายถึงการปรับแนวนโยบาย แรงจูงใจ และกลไกความรับผิดชอบเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในทุกระดับของระบบการศึกษา

            แนวทางตอบสนองเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ระบบการศึกษาไม่เพียงแต่ให้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้สำหรับนักเรียนทุกคนอย่างแท้จริง โดยมีเนื้อหาพอสังเขป ดังนี้ 

           นโยบายข้อที่ 1 ประเมินการเรียนรู้ (Assess Learning) 

            เพื่อประเมินผลการเรียนรู้และกำหนดให้เป็นเป้าหมายที่จริงจัง ดังนี้ 

อธิบายภาพ : หลายประเทศขาดข้อมูลผลลัพธ์การเรียนรู้

          1.1 การวัดผลอย่างเป็นระบบ

                การประเมินเป็นประจำ ดำเนินการประเมินอย่างสม่ำเสมอและเชื่อถือได้เพื่อวัดผลการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจว่านักเรียนเรียนรู้อะไรจริง ๆ และระบุช่องว่างได้

             การทดสอบมาตรฐาน ใช้การทดสอบมาตรฐานเพื่อให้ข้อมูลที่เปรียบเทียบได้ในภูมิภาคและโรงเรียนต่าง ๆ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลที่รวบรวมมีความสอดคล้องกันและสามารถใช้ในการตัดสินใจอย่างรอบรู้ได้

อธิบายภาพ : ประเทศที่มีประสิทธิภาพต่ำ เผชิญกับการแลกเปลี่ยนที่รุนแรง ระหว่างการเรียนรู้และผลลัพธ์ทางการศึกษาอื่น ๆ

            1. 2. เน้นที่ผลการเรียนรู้ 

                    นอกเหนือจากการลงทะเบียนเรียน เปลี่ยนโฟกัสจากการลงทะเบียนเรียนนักเรียนในโรงเรียนเพียงอย่างเดียวเป็นการตรวจสอบให้แน่ใจว่านักเรียนกำลังเรียนรู้จริง ๆ ซึ่งหมายถึงการติดตามความคืบหน้าในการอ่านเขียน การคำนวณ และทักษะสำคัญอื่น ๆ

                การตัดสินใจตามข้อมูล ใช้ข้อมูลจากการประเมินเพื่อกำหนดนโยบายและการปฏิบัติ วิธีนี้ช่วยในการระบุสิ่งที่ได้ผลและไม่ได้ผล ทำให้สามารถปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้ได้

               1.3. ความโปร่งใสและความรับผิดชอบ

                       การรายงานต่อสาธารณะ เปิดเผยผลการประเมินต่อสาธารณะเพื่อให้เกิดความโปร่งใส วิธีนี้จะทำให้โรงเรียนและระบบการศึกษาต้องรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

                การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดึงดูดผู้ปกครอง ครู และชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำความเข้าใจและใช้ข้อมูลการประเมิน ซึ่งจะช่วยสร้างความรับผิดชอบร่วมกันในการปรับปรุงการศึกษา

                ระบบการศึกษาสามารถมั่นใจได้ว่านักเรียนทุกคนจะได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อความสำเร็จ โดยการทำให้การเรียนรู้เป็นเป้าหมายที่สำคัญผ่านการประเมินอย่างเป็นระบบ วิธีนี้ช่วยในการระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุง และในการดำเนินการแทรกแซงที่ตรงเป้าหมายเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้

         นโยบายข้อที่ 2 ดำเนินการตามหลักฐาน (Act on evidence) 

         เพื่อให้โรงเรียนทำงานเพื่อผู้เรียนทุกคน ดังนี้ 

อธิบายภาพ : ดำเนินการตามหลักฐานเพื่อให้โรงเรียนทำงานสำหรับผู้เรียนทุกคน 

           2. 1. นำกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้วมาใช้

                    ทักษะและแรงจูงใจของครู เน้นที่การพัฒนาทั้งทักษะและแรงจูงใจของครู การสอนที่มีประสิทธิภาพมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ดังนั้นการลงทุนในการฝึกอบรมและการสนับสนุนครูจึงมีความจำเป็น

                    แนวทางการสอนที่มีประสิทธิภาพ นำแนวทางการสอนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลมาใช้ ซึ่งรวมถึงวิธีการสอนแบบโต้ตอบ การประเมินอย่างต่อเนื่อง และกลไกการตอบรับที่ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ได้ดีขึ้น

              2.2 การจัดสรรทรัพยากร

                    ให้แน่ใจว่าทรัพยากรเข้าถึงห้องเรียนตรวจสอบให้แน่ใจว่าทรัพยากรทางการศึกษา เช่น หนังสือเรียน เทคโนโลยี และสื่อการเรียนรู้ เข้าถึงห้องเรียนตามที่ต้องการจริงๆ

                   การจัดสรรอย่างเท่าเทียมกัน จัดสรรทรัพยากรในลักษณะที่แก้ไขความแตกต่าง ซึ่งหมายถึงการให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่โรงเรียนและนักเรียนในพื้นที่ด้อยโอกาสเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเรียนรู้เท่าเทียมกัน

              2.3. การตัดสินใจตามข้อมูล

                      ใช้ข้อมูลเพื่อแจ้งนโยบาย รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียนของนักเรียนและแนวทางปฏิบัติทางการศึกษาเพื่อแจ้งการตัดสินใจทางนโยบาย ซึ่งจะช่วยระบุสิ่งที่ได้ผลและขยายขอบเขตการแทรกแซงที่ประสบความสำเร็จ

                      การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง สร้างกลไกสำหรับการติดตามและประเมินผลโปรแกรมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ปรับเปลี่ยนและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยหลักฐาน

           ระบบการศึกษาสามารถนำกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้ได้มาใช้โดยอาศัยหลักฐาน แนวทางนี้ช่วยให้โรงเรียนมีประสิทธิภาพในการให้การศึกษามีคุณภาพแก่เด็กนักเรียนทุกคน โดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังของพวกเขา

          นโยบายข้อที่ 3 จัดแนวผู้มีส่วนร่วม (Align actors-to make the whole system work for learning) 

          เพื่อให้ระบบทั้งหมดทำงานเพื่อการเรียนรู้ ดังนี้ 

อธิบายภาพ : ความสอดคล้องและการจัดแนวเพื่อการเรียนรู้ 

          3.1. ​​วิสัยทัศน์และเป้าหมายที่เป็นหนึ่งเดียว

                  วัตถุประสงค์ร่วมกัน ให้แน่ใจว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในระบบการศึกษา รวมถึงผู้กำหนดนโยบาย นักการศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมกันที่มุ่งเน้นที่การปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้

                 การสื่อสารที่ชัดเจน กำหนดช่องทางการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อสื่อถึงความสำคัญของการเรียนรู้และเป้าหมายเฉพาะที่จำเป็นต้องบรรลุ ซึ่งจะช่วยสร้างความพยายามที่เป็นหนึ่งเดียวในการปรับปรุงการศึกษา

              3.2. แรงจูงใจและความรับผิดชอบ

                       แรงจูงใจที่สอดคล้องกัน ออกแบบแรงจูงใจที่สนับสนุนให้ผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ซึ่งอาจรวมถึงรางวัลตามผลงานสำหรับครูและโรงเรียนที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญในการเรียนรู้ของนักเรียน  

                      กลไกความรับผิดชอบ นำระบบความรับผิดชอบมาใช้เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนรับผิดชอบต่อบทบาทของตนในกระบวนการศึกษา ซึ่งรวมถึงการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ

                  3.3. ความร่วมมือและหุ้นส่วน

                          การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดึงดูดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม เช่น หน่วยงานของรัฐ องค์กรนอกภาครัฐ พันธมิตรภาคเอกชน และชุมชน เพื่อร่วมมือกันริเริ่มโครงการด้านการศึกษา

                     การมีส่วนร่วมของชุมชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างเข้มแข็งในโรงเรียน ผู้ปกครองและสมาชิกในชุมชนสามารถมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนักเรียนและทำให้โรงเรียนต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์การเรียนรู้

                 3.4. ความสอดคล้องของนโยบาย

                         นโยบายที่สอดคล้องกัน ให้แน่ใจว่านโยบายด้านการศึกษาสอดคล้องกันและเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งหมายถึงการจัดแนวนโยบายให้สอดคล้องกันในภาคส่วนต่างๆ เช่น บริการด้านสุขภาพและสังคม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการเรียนรู้แบบองค์รวม

                      ความมุ่งมั่นในระยะยาว มุ่งมั่นต่อกลยุทธ์และการลงทุนด้านการศึกษาในระยะยาว การปรับปรุงการเรียนรู้อย่างยั่งยืนต้องอาศัยความพยายามและทรัพยากรที่สม่ำเสมอตลอดเวลา

              การจัดแนวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดให้มุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกันในการปรับปรุงการเรียนรู้ ระบบการศึกษาสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สอดประสานและสนับสนุนซึ่งช่วยส่งเสริมผลลัพธ์ของนักเรียนได้ แนวทางนี้ช่วยให้มั่นใจว่าทุกส่วนของระบบทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้น

Reference: 

[รายงานการพัฒนาโลก 2018](https://www.worldbank.org/en/publication/wdr2018)