หลักเกณฑ์การประเมิน PA ของศึกษานิเทศก์ (ตาม ก.ค.ศ.)

📑 หลักเกณฑ์การประเมิน PA ของศึกษานิเทศก์ (ตาม ก.ค.ศ.)

1. ขอบเขตการพัฒนางาน (Performance Agreement Scope)

ภารกิจหลัก (Core Functions) ของศึกษานิเทศก์ ได้แก่

1. การนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา

2. การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา

3. การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และระบบการเรียนรู้ในสถานศึกษา

4. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ

5. การวิจัยและพัฒนา นวัตกรรม หรือองค์ความรู้เพื่อการศึกษา

ภารกิจตามบริบทพื้นที่ (Contextual Functions) เช่น

โครงการตามนโยบาย สพฐ./กระทรวง

การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่/สถานศึกษา

การแก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่ (เช่น เด็กตกหล่น, การอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้, ความเหลื่อมล้ำ)

2. เกณฑ์และวิธีการประเมิน

การประเมินจะแบ่งเป็น 2 ด้านใหญ่

(ก) ด้านที่ 1 : การพัฒนางานตามข้อตกลง (PA 1)

ประเมินจาก ความสำเร็จของผลลัพธ์ ที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด เช่น

ผลการพัฒนาคุณภาพครู

ผลสัมฤทธิ์หรือคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

ผลการจัดกิจกรรม/โครงการ/นวัตกรรม

ใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence) เช่น รายงานการนิเทศ, สื่อ/นวัตกรรม, ผลการประเมิน, Feedback จากโรงเรียน

(ข) ด้านที่ 2 : การปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง (PA 2)

ประเมินจาก สมรรถนะวิชาชีพศึกษานิเทศก์ ได้แก่

1. การเป็นผู้นำทางวิชาการ

2. การวิเคราะห์ วางแผน และจัดระบบการนิเทศ

3. การพัฒนาครูและบุคลากรให้มีคุณภาพ

4. การใช้วิจัย ข้อมูล และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนา

5. คุณธรรม จริยธรรม และการทำงานแบบมืออาชีพ

3. ระดับคุณภาพการประเมิน

ดีเด่น = เกินเป้าหมายอย่างมีนวัตกรรมและขยายผลได้

ดีมาก = บรรลุเป้าหมายพร้อมหลักฐานชัดเจน

ดี = บรรลุเป้าหมายตามเกณฑ์ขั้นต่ำ

พอใช้/ปรับปรุง = ไม่บรรลุเป้าหมาย/หลักฐานไม่เพียงพอ

4. ผลการประเมิน

-ใช้ประกอบการ เลื่อนวิทยฐานะ (ชำนาญการพิเศษ → เชี่ยวชาญ → เชี่ยวชาญพิเศษ)

-ใช้เป็นหลักฐานในการ เลื่อนขั้นเงินเดือน/ค่าตอบแทน

-ใช้สะท้อน คุณภาพงานของเขตพื้นที่ และ การพัฒนาครู-ผู้เรียน

📌 สรุปง่าย ๆ :

การประเมิน PA ของศึกษานิเทศก์ ไม่ใช่การวัดปริมาณงาน แต่เน้น คุณภาพ + ผลลัพธ์จริงต่อครูและผู้เรียน ภายใต้สมรรถนะวิชาชีพ