บทเรียนที่ 2 การวิเคราะห์ Pattern Detection จากรายงาน SAR 2567 กรณีศึกษา : โรงเรียนตลาดโพธิ์พิทยาคม
จากการวิเคราะห์รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียนตลาดโพธิ์พิทยาคม ตามหลักการ Pattern Detection ของ LLMs โดยเน้นการตรวจจับรูปแบบเชิงตัวเลข รูปแบบเชิงภาษา และความสอดคล้องเชิงกลยุทธ์ สามารถสรุปรูปแบบ (Patterns) ที่สำคัญได้ดังนี้
การวิเคราะห์ Pattern Detection จากรายงาน SAR 2567
LLM ได้ประมวลผลข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพจากรายงานเพื่อค้นหาแนวโน้มและความสม่ำเสมอ ซึ่งพบรูปแบบที่โดดเด่น 4 ประการ:
1. รูปแบบความไม่สอดคล้องของผลลัพธ์ (Performance Disconnect Pattern)
เป็นรูปแบบที่ชัดเจนที่สุด โดยพบความไม่สอดคล้องกันระหว่างการประเมินกระบวนการ/ทักษะ กับผลสัมฤทธิ์รวม:
กระบวนการที่ยอดเยี่ยม (Excellent Process):
มาตรฐานที่ 2 (กระบวนการบริหารและจัดการ) ได้ผลประเมิน ดีเลิศ
มาตรฐานที่ 3 (กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ) ได้ผลประเมิน ดีเลิศ
ทักษะแห่งอนาคตที่ยอดเยี่ยม (Excellent Future Skills):
ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน/เขียน/สื่อสาร/คิดคำนวณ ในระดับ ดีเลิศ (ร้อยละ 80.14)
ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์/วิจารณญาณ/แก้ปัญหา ในระดับ ดีเลิศ (ร้อยละ 85.92)
ความสามารถในการสร้างนวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ระดับ ดีเลิศ
ผลสัมฤทธิ์รวมที่ต้องพัฒนา (Good Overall Achievement):
มาตรฐานย่อย 1.1 (ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน) มี ค่าเป้าหมาย: ดีเลิศ แต่ ผลการประเมิน: ดี
Pattern Summary: โรงเรียนประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนาด้านกระบวนการบริหารจัดการ (2, 3) และการปลูกฝังทักษะการคิด (21st Century Skills) แต่กลับยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวม ซึ่งสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของตัวชี้วัด (KPI) หรือ ความแตกต่างระหว่างคะแนนทักษะกับการสอบวัดผลเนื้อหารายวิชา (เช่น O-NET)
2. รูปแบบแนวโน้มเชิงบวกภายในปี (Internal Upward Trend Pattern)
แม้ว่าผลสัมฤทธิ์รวมจะต่ำกว่าเป้าหมาย แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเกรดเฉลี่ยรายวิชาแสดงแนวโน้มที่ดีขึ้นภายในปีการศึกษา 2567:
ภาคเรียนที่ 1: นักเรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป คิดเป็น 52.18%
ภาคเรียนที่ 2: นักเรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป เพิ่มขึ้นเป็น 57.43%
Pattern Summary: การเพิ่มขึ้นของร้อยละนักเรียนที่ได้เกรดดีในภาคเรียนที่ 2 แสดงให้เห็นว่า มาตรการหรือกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ปรับปรุงในช่วงกลางปี (PDCA Cycle) มีประสิทธิภาพในการยกระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างเป็นรูปธรรม
3. รูปแบบการเน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Digital & Innovation Commitment Pattern)
มีการใช้คำสำคัญและกำหนดกลยุทธ์ที่เน้นความทันสมัยอย่างสม่ำเสมอในทุกมาตรฐาน:
| ด้าน | คำสำคัญ/กลยุทธ์ที่ปรากฏซ้ำ |
| การบริหารจัดการ | การใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ในการบริหารจัดการ และการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ (Data-Driven Management)
การจัดการเรียนการสอน | การส่งเสริมให้ครูใช้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยในการจัดการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลผู้เรียน และการเน้น Active Learning
เอกลักษณ์/วิสัยทัศน์ | มุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมสำหรับ "วิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21" และการเป็น "โรงเรียนพื้นที่นวัตกรรม"
Pattern Summary: โรงเรียนมีการวางกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเป็น องค์กรแห่งนวัตกรรม โดยใช้เทคโนโลยีและ AI เป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนคุณภาพอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นรากฐานของความสำเร็จในด้านทักษะ 21st Century
4. รูปแบบการแก้ไขปัญหาด้วยข้อมูล (Data-Driven Intervention Pattern)
แผนพัฒนาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (จุดที่ควรพัฒนา) มีรูปแบบการแก้ไขที่เน้นการใช้ข้อมูลเป็นหลัก:
การวิเคราะห์ปัญหา: จัดให้มีการ วิเคราะห์ข้อสอบย้อนหลัง 3 ปี เพื่อหาจุดอ่อนที่ต้องพัฒนาเร่งด่วน
การแทรกแซง: จัดทำ แผนเร่งรัดพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และ วิเคราะห์รายวิชาที่มีผลสัมฤทธิ์ต่ำ เพื่อจัดกลุ่มนักเรียนเรียนเสริม
การใช้เครื่องมือ: ใช้เทคโนโลยี AI มาช่วย วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ และวางแผนการสอน (Personalized Learning)
Pattern Summary: แทนที่จะกลับไปใช้วิธีการแบบดั้งเดิม โรงเรียนเลือกที่จะใช้ "เทคโนโลยีขั้นสูง (AI/Data Analysis)" เป็นกลไกหลักในการแก้ไข "ปัญหาแบบดั้งเดิม (ผลสัมฤทธิ์ต่ำ)" สะท้อนถึงการประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงนวัตกรรมตามบริบทของโรงเรียนพื้นที่นวัตกรรม
เอกสารอ้างอิง :
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียนตลาดโพธิ์พิทยาคม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น