นักแต่งเพลงหูหนวก (Beethoven Was Deaf)

 


                        กุญแจฟา : แปล-เรียบเรียง

                      (จาก Deep English Story)


       ในเวลาที่ลูทวิช ฟัน เบทโฮเฟิน (Ludwig van Beethoven) แต่งเพลงที่โด่งดังที่สุดนั้น หูของเขาไม่ได้ยินเสียงอะไร

          เพลงที่เขาประพันธ์ขึ้น จนกลายเป็น

ผลงานชิ้นเอก เกิดขึ้นจากการใช้จินตนาการ


          ใช่แล้ว เบทโฮเฟิน หูหนวก !!

            คุณฟังไม่ผิด เขาหูหนวก !!

          

           สองสามเพลงสุดท้ายที่นักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ได้เขียนขึ้น ในขณะที่หูของเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว

            เขาไม่ได้หูหนวกมาแต่แรกเกิด แต่ค่อยๆสูญเสียการได้ยิน ตั้งแต่อายุ 30 ปี

            ครั้งแรกที่เริ่มรู้สึกว่ามีปัญหา ก็ตอนอายุได้ 26 ปี ที่ได้ยินเสียงอู้อี้ในหู

            แต่ก็เก็บเป็นความลับ และรู้สึกลึก  ในใจว่ามันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อาชีพที่กำลังรุ่งเรืองของเขาต้องสะดุดลงก็เป็นได้

             พอมาถึงอายุ 30 ปี เขายิ่งกลัวว่าหูจะหนวกมากยิ่งขึ้น


             เบทโฮเฟินไปพบหมอ แล้วบอกหมอถึงอาการที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จนขณะนี้ไม่ได้ยินเสียงดนตรีแล้วเว้นเสียแต่ว่า ต้องไปยืนใกล้  นักดนตรีที่บรรเลง..

             เขาเขียนบันทึกเรื่องราวของตัวเองไว้ว่า “ ผมหลีกเลี่ยงที่จะเข้าสังคมมาร่วม 2 ปีแล้ว ผมรับไม่ได้ที่จะบอกกับทุกคนว่า ผมหูหนวก ให้ผมไปทำอาชีพอย่างอื่นจะง่ายกว่า” 


            เฟอร์ดินันด์ รีส์ (Ferdinand Ries) เพื่อนนักแต่งเพลงด้วยกัน กล่าวถึงจุดเปลี่ยนของเบทโฮเฟินว่า เกิดขึ้นเมื่อเขาทั้งสองเดินอยู่กลางทุ่งในชนบท แห่งหนึ่ง เราเห็นคนเลี้ยงแกะเป่าขลุ่ย แต่เขากลับไม่ได้ยินเสียงเพลงจากขลุ่ยนั้น 

            เขาเป็นเช่นนี้อยู่ไม่นานก็ต้องยอมรับความจริง ด้วยการเผชิญหน้าและยอมจำนนกับสภาพที่ต้องสูญเสียการได้ยินไปโดยปริยาย


             เมื่ออายุได้ 44 ปี หูของเขาหนวกเกือบสนิท โดยไม่ได้ยินเสียงคนหรือเสียงต่างๆที่คุ้นชินในพื้นที่ชนบทอันเป็นที่ที่เขารัก



              จริงๆแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่เขาต้องเป็นเช่นนั้น มีการระบุถึงหลายๆ สาเหตุ เช่น เชื้อซิฟิลิส พิษของตะกั่ว ไข้รากสาดใหญ่ หรือแม้กระทั่ง นิสัยของเขา ที่ชอบเอาหัวมุดลงในถังน้ำแข็ง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว 

              บ่อยครั้งที่เขาอ้างว่าเพราะหกล้ม รวมทั้งปัญหาทางเดินอาหารด้วย

              ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามเขาคิดว่า เขายอมไม่ได้ที่จะทำให้การไม่ได้ยินของเขาต้องมาทำลายสิ่งที่เขาหลงใหล นั่นคือ การแต่งเพลง

         แม้จะไม่ได้ยินเสียงโน๊ตแต่ละเสียง

แต่เขายังใช้ความรู้สึกและจินตนาการได้



                แม่บ้านของเขากล่าวว่า นึกถึงตอนที่เขานั่งอยู่หน้าเปียโน เขาใช้ปากคาบดินสอ ส่วนมือใช้เล่นเปียโนกดคีย์บอร์ดออกมาเป็นเสียงโน๊ต

               เบทโฮเฟินเขียนเพลง ซิมโฟนีหมายเลข 9 (Ninth Symphony) จนโด่งดังโดยปราศจากการได้ยินเสียงใด  ทั้งสิ้น..

              เมื่อเปิดการแสดงในรอบปฐมทัศน์ เขายืนยันว่าเขาจะเป็นวาทยกร (ผู้ควบคุมวงเอง แต่วงออเคสตร้า ได้ไปจ้างผู้อื่นมาทำหน้าที่แบบเดียวกัน โดยให้ไปยืนข้างๆเขาด้วย 

               แทนที่วงดนตรีจะบรรเลงตามการนำของผู้ที่จ้างมา แต่พวกเขากลับเล่นเพลงตามผู้เรียบเรียงเพลงนั้นแทน


        เมื่อการบรรเลงเพลงได้สิ้นสุดลง ผู้ชมต่างพร้อมใจกันปรบมืออย่างกึกก้อง 

         แต่เบทโฮเฟินกลับไม่ได้ยินเสียงแห่งการชื่นชมนั้นแต่อย่างใด…

              

               


หมายเหตุ 

      ท่านสามารถฟังเพลง Ninth Symphony ได้ทางยูทูป 


          

          

       


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...