ปิดคือเปิด (Closed is reopen)
ชาน ชาลา : เขียน
นึกไม่ออกว่าคุณตาวัย 70 กับหลานอายุ 3 ขวบจะมีอะไรที่เข้ากันได้…. นอกจากจะต้องร่วมมือกันกับศาสดา..
ช่วงปิดภาคเรียน ตากับหลานถูกปล่อยไว้ให้อยู่กัน 2 คนตามลำพัง หลังจากพ่อ-แม่ของหนูน้อยต้องออกไปทำงานประจำนอกบ้าน
แต่ก่อนที่พ่อ-แม่คู่นี้จะออกไป พวกเขาได้ทำธุระปะปังให้กับลูกน้อยวัยอนุบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำ แปรงฟัน ป้อนข้าว แต่งตัวสบายๆ อยู่กับบ้าน
ทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมหลัก ๆ ที่จำเป็นสำหรับเด็กและจัดให้พอดีกับเวลาที่พอจะมีก่อนออกไปทำงาน
หากขาดตกบกพร่องอะไร ที่เหลือ นอกจากนี้ คุณตาก็พอจะทำแทนได้ เพราะมันเป็นกิจกรรมปกติของการดำเนินชีวิตที่พอจะคาดเดาได้…
แต่หลังจากนั้นไป ไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง..
หนูน้อยยกเอากล่องของเล่นที่บรรจุของเล่นต่าง ๆ ที่เขาชอบเทลงบนพื้นห้อง แล้วทุกอย่างก็เคลื่อนตัวไปตามจิตนาการของเขา…
เครื่องบิน เหาะเหินเดินอากาศ โฉบเฉี่ยว ฉะหวัด ฉะเหวียน ได้อย่างลงตัว ล่องลอย ไปพร้อมกับจังหวะจะโคนของเสียงพากย์ที่หวีดหวิว..จนดูสมจริง
การแสดงทั้งหมดนี้ มีคุณตาเป็นผู้ชมการแสดงอยู่อย่างใกล้ชิด…
ไม่นาน คุณตาก็ถูกขอร้องให้เป็นตัวประกอบการแสดง ซึ่งเป็นไปตามการกำกับของหลาน อาจต้องขับรถยนต์ รถไฟ วิ่งสวนกันไปมากับพาหนะของเขา…หากคุณตาอ่อนล้า..เสียงงอแงคือ ป้ายประท้วงให้คุณตา ต้องกลับเข้าไปสู่โลกแห่งสมมตินั้น อีกต่อไป จนกว่าเขาจะเลิกรา…
เมื่อความสนุกสุกงอมไปเป็นความเบื่อหน่าย..
คุณหลานก็หันไปสู่โลกอีกใบเพื่อสร้างอารมณ์ให้สดใหม่อีกครั้ง.,
ในความเป็นเด็กนั้น เมื่อเบื่อกับสิ่งใด เขาก็หันไปสร้างอารมณ์ใหม่กับสิ่งอื่น ๆได้ไม่จำกัด
แต่ในความเป็นผู้ใหญ่ จะทำอย่างไร เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ซ้ำ ๆ เดิม ๆ…
หนูน้อยหยิบปากสีน้ำมาระบายกระดาษให้เป็นรูปภาพต่าง ๆ สลับกับการยื่นปากกานั้นให้คุณตามีส่วนร่วมละเลงภาพกับเขาด้วยเช่นกัน….
การแลกเปลี่ยนจินตนาการระหว่างคนสองวัยดำเนินไปสักครู่ คุณหลานก็เริ่มอิ่มในอารมณ์อีก..ขณะที่คุณตานั้นเกินอิ่มกับการมีส่วนร่วม….
หลานทิ้งตัวลงนอนสงบนิ่ง แต่ภายในใจครุ่นคิดที่จะหาสิ่งทดแทน อารมณ์ที่อ่อนล้าลง
ในระหว่างสะดุดกับความเงียบนั้น คุณตานึกถึงคำกล่าวของศาสดาที่ทรงแนะนำไว้
“ไม่ใช่งานหนักที่ทำให้พลังงาน
หมดไป แต่คือความวุ่นวายทางอารมณ์ต่างหาก…..”
ยังไม่ทันที่ความโลดแล่นทางความคิดจะแย้มกาย…
“อยากไปข้างนอก….” เสียงหลานออดอ้อน…
หลานเดินนำคุณตาออกนอกบ้าน สองมือจับรถจักรยานคันเล็ก ซึ่งเป็นพาหนะจริงๆ ของเขา แล้วปั่นออกไปตามท้องถนนหน้าบ้าน…กลับไปกลับมาหลายเที่ยว
ทุกครั้งที่เปลี่ยนกิจกรรม มันเหมือนเป็นการเติมพลังให้กลับมาใหม่อีกครั้ง คุณหลานจะดูสดชื่น รื่นเริง กระปรี้กระเปร่า เหมือนปลาได้น้ำ..
ส่วนคุณตากลับตรงกันข้าม เค้าลางของความอิดโรยเริ่มก่อตัว..แต่ใจก็ยังคิดถึงคุณพระ….
กลับจากปั่นจักรยาน ก็ต้องเติมน้ำเติมนม เพราะเวลาล่วงเลยข้ามยามสายเข้าข่ายยามเที่ยงแล้ว…แต่เมื่อกลับเข้าบ้าน
“เล่นพัทยา…” คุณหลานยื่นข้อเสนอ (ที่มิอาจคัดค้านได้)
แล้วร่มก็ถูกกางออก นำไปจัดวางเป็นแถวเป็นกลุ่ม บนระเบียงบ้าน นี่คือชายหาดพัทยา
“ตาเข้ามาด้วย” หลานเรียกร้องให้คุณตา เป็นส่วนหนึ่งของนักท่องเที่ยวริมชายหาด…
สองตา-หลานจะซุกตัวอยู่ใต้ร่มที่กางเรียงกันเป็นกลุ่ม ซึ่งบัดนี้ ทั้งสองคนได้หลอมรวมวัยให้มีความกลมกลืนกันจนไม่มีความแตกต่างแล้ว.
หลังอาหารเที่ยง…การพักกลางวันก็คือ กิจกรรมยามเช้าที่วนมาอีกรอบ…ยาวไปจนกว่าพ่อ-แม่ของเขาจะกลับจากทำงาน…
สำหรับคุณหลานทุกย่างก้าวคือ พัฒนาการ
ส่วนคุณตา อายุและสถานการณ์ไม่อาจริดรอนพลังงานและเรี่ยวแรงของเขาไปได้เลย
ก่อนแสงตะวันจะลาลับในวันนั้น คุณตานึกถึงคำของศาสดาอีกครั้ง
“ผู้ใหญ่วัยกลางคนหรือวัยสูงอายุที่นำจิตใจเด็กไปใช้นั้น ฉลาดอย่างยิ่ง เพราะ
เขาจะรักษาใจที่เป็นสุขได้อย่างแท้จริง”
วันปิดเทอมของหลาน กลับเป็นวันเปิดเทอมของตา…!!!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น