กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgements)
สุริยา เผือกพันธ์
ผมได้รับคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุ
การดำเนิ นงานของคณะอนุกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา ของสหวิทยาเขตเมืองบุรีรัมย์ จำวนวน 10 โรงเรียน ในระหว่างวันที่ 19 - 23 กุมภาพันธ์ 2567
ในการดำเนินงานครั้งนี้ คณะกรรมการ อ.ก.ต.ป.น. ใช้แบบติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการคณะกาาร
ในการดำเนินงานครั้งนี้ คณะกรรมการ อ.ก.ต.ป.น. ใช้แบบติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการคณะกาาร
การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและ
นิเทศการศึ กษาของเขตพื้นที่การศึกษา เป็นเครื่องมือ เพื่อหาความสอดคล้อง (Conformity Assessment) กับแนวทางและเป้าหมายความสำเร็จ ของคณะกรรมการ ก.ต.ป.น. ของเขตพื้นที่การศึกษา ที่มีภารกิจในการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ยุทธศาสตร์นโยบาย จุดเน้นของชาติ ของกระทรวงศึกษาธิการ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึ กษาขั้นพื้นฐานและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ทั้งนี้ เพื่อนำผลการติดตามฯ เสนอต่อผู้อำนวยการ สำนั กงานเขตพื้นที่การศึกษา และคณะกรรมการ ก.ต.ป.น. ของเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหา และปรับปรุงพัฒนาการบริ หารและการพัฒนาคุณภาพการศึ กษาอย่างต่อเนื่องต่อไป....
ผมเข้าใจศักยภาพของการประเมิ นโดยวิธีนี้มาแล้วตั้งแต่ต้น เพราะเคยเป็นกรรมการประเมินคุ ณภาพภายในสถานศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึ กษามาแล้วตั้งแต่รุ่นบุกเบิก (พ.ศ. 2542) และปฏิบัติหน้าที่เรื่อยมาจนมี การหลอมรวมหน่วยงานทางการศึ กษาในปี พ.ศ. 2546 ภารกิจนี้จึงตกไป
แต่ในการออกประเมินครั้งนี้ ได้ถือโอกาสใช้กล้องส่ องทางไกลอีกตัว ที่กล้องส่องทางไกลแบบที่ พวกเราเคยใช้มานานหลายปีแล้วส่ องไปไม่ถึง...
มันเป็นกล้องที่ส่องให้เห็นถึ งความเสมอภาค ความเท่าเทียม อันเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่ทุ กคนประกาศต่อสาธารณะ
การใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องเชิ งประจักษ์ด้วยวิธีการสังเกตหรื อจากประสบการณ์ มีพื้นฐานอยู่บนแนวคิดของการศึกษาความจริงทางกายภาพและเป็นรู ปธรรมอย่างแท้จริง..
ขอขอบคุณผู้อำนวยการสำนั กงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึ กษาเขต 32 ดร. กฤษ ละมูลมอญ และคณะกรรมการ อ.ก.ต.ป.น. สหวิทยาเขตเมืองบุรีรัมย์ รอง ผอ. ศุภชัย ภาสกานนท์ ผอ. วีระศักดิ์ พินิจ ดร. ธนา ดุจเพ็ญ ดร. จัตุพร แปว
ขอขอบคุณ ผู้บริหาร คณะครูอาจารย์และนักเรียนทั้ง 10 โรงเรียนในสหวิทยาเขตเมืองบุรี รัมย์ ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า..
การมองโลกแบบองค์รวม (Overview) ทำให้เราไม่เห็นกำแพงหรือ
ทั้งนี้ เพื่อนำผลการติดตามฯ เสนอต่อผู้อำนวยการ สำนั
แบบติดตามและประเมินผลฯ เป็นเครื่องมือติดตามและประเมิ นผล โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ (Empirical Data) ที่ใช้วิธีศึกษาจากเอกสาร/หลั กฐานอ้างอิง มาพิจารณาหาความสอดคล้องกับตั วบ่งชี้ (4 ตัวบ่งชี้) เพื่ออธิบายคุณภาพการจัดการศึ กษา ที่แบ่งเป็นระดับ 4 ระดับ ซึ่งมีความหมายตั้งแต่ปรับปรุง พอใช้ ดี ไปจนถึงดีเยี่ยมอันเป็นระดับคุณภาพสูงสุด
เป็ นการประเมินเชิงปริมาณ (Quantitative Assessment) เป็นการวัดที่ให้ผลออกมาเป็นตั วเลข ตรงไปตรงมา เน้นให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ไม่ใช้ความรู้สึก...
เข้าใจง่าย ๆ คือ เหมือนการเจาะกระดาษเฉลยคำตอบของครู ให้เป็นรู แล้วนำไปทาบกับกระดาษคำตอบของนั กเรียน เพื่อหาข้อที่นักเรียนตอบได้ ตรงกับเฉลยของครูมากที่สุดว่ามี กี่ข้อ ซึ่งก็คือคะแนนที่นักเรียนทำได้ นั่นเอง...
เข้าใจง่าย ๆ คือ เหมือนการเจาะกระดาษเฉลยคำตอบของครู
ผมเข้าใจศักยภาพของการประเมิ
แต่ในการออกประเมินครั้งนี้ ได้ถือโอกาสใช้กล้องส่
มันเป็นกล้องที่ส่องให้เห็นถึ
อย่ างตรงไปตรงมาเช่นกัน...
กล้องตัวที่ว่านี้คือ การประเมินเชิงคุณภาพ (Qualitative Assessment)...
การประเมินเชิงคุณภาพ เป็นการแสวงหาคุณค่าเชิงอัตวิสั ย ที่ทำให้เราสามารถใช้จิ นตนาการลุถึ งอารยธรรมของคนในองค์กร เช่น ความเป็นธรรม ความเห็นอกเห็นใจ ความเสมอภาค ความเท่าเทียม ความหลากหลาย ต่าง ๆ อันสลับซับซ้อนซ่อนอยู่ ..
แทนที่ข้อเท็จจริงเชิงตัวเลข การคำนวณเชิงภาววิสัย....ที่ไม่ สามารถเข้าถึงความลึกลับต่าง ๆ ได้เลย...
กล้องตัวที่ว่านี้คือ การประเมินเชิงคุณภาพ (Qualitative Assessment)...
การประเมินเชิงคุณภาพ เป็นการแสวงหาคุณค่าเชิงอัตวิสั
แทนที่ข้อเท็จจริงเชิงตัวเลข การคำนวณเชิงภาววิสัย....ที่ไม่
การใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องเชิ
ประสบการณ์ส่วนตัว (อัตวิสัย) ถูก
ดีงออกไป เพื่อให้เราสามารถค้นหาสิ่งที่ มีอยู่จริง ๆ มากกว่าอยู่ในจินตนาการของเรา
การใช้กล้องส่องทางไกลอีกตั วที่ทำการสังเกตและให้เหตุผลอธิ บายปรากฏการณ์ที่ซับซ้ อนในโรงเรียนต่าง ๆ ที่ไปเยี่ยมมา แล้วเขียนบันทึกเป็นไดอารี่ไว้ จึงเป็นงานที่ไม่ได้กำหนดไว้ ในจุดประสงค์ของการประเมินครั้งนี้แต่อย่างใด..
ไม่ว่าเราจะพบความจริงหรือไม่ อย่างไร..แต่การนำเสนอความคิ ดเห็นเหล่านี้..กำลังเปลี่ ยนแปลงตัวเรา ด้วยการทลายข้อจำกัดทาง ความคิดของเรา ออกไปสู่ความรู้ใหม่โดยตัวมั นเอง.......
การใช้กล้องส่องทางไกลอีกตั
ไม่ว่าเราจะพบความจริงหรือไม่
ขอขอบคุณผู้อำนวยการสำนั
ไธสง ศน. ระพีพรรณ มะลิพันธุ์ ศน.
สุเนตร พรอมตตระกูล ศน. วัชราภรณ์ แสนท้าว ศน. สัจจา ประเสริฐกุลและ ศน. สุจิตรา กุสิรัมย์ ที่ได้ทำหน้าที่เป็นครู (ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม) โดยตลอดการเดินทางนั้น ทำให้ผมได้เรียนรู้ กระบวนการทำงานต่าง ๆ หลากหลายแง่มุม อันเป็นประโยชน์ต่อตัวผมทั้งสิ้ น
ขอขอบคุณ ผู้บริหาร คณะครูอาจารย์และนักเรียนทั้ง 10 โรงเรียนในสหวิทยาเขตเมืองบุรี
การมองโลกแบบองค์รวม (Overview) ทำให้เราไม่เห็นกำแพงหรือ
อุ ปสรรคทางเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา และการแบ่งแยกในโลกใบนี้
นักจิตวิ ทยาสาขาความยำเกรงและความหลุ ดพ้นได้กล่าวว่า
"สังคมที่มีสุขภาพดี จำเป็นต้องเข้าถึงภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การเชื่อมต่อและความเห็นอกเห็ นใจ ที่มีความจำเป็นมากกว่าการ
นักจิตวิ
"สังคมที่มีสุขภาพดี จำเป็นต้องเข้าถึงภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การเชื่อมต่อและความเห็นอกเห็
วิ เคราะห์ข้อมูล เราต้องสัมผัสความลึกลั บและความกว้างใหญ่ไพศาลของจั กรวาล ด้วยตัวเราเอง"......
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น