ระบบโรงเรียนล้มเหลว : สาเหตุลึกๆ
เมื่อมองจากระบบ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ผลลัพธ์การเรียนรู้และทักษะของผู้เรียนอยู่ในระดับต่ำ เพราะมีแรงเหนี่ยวรั้งจากความสลับซับซ้อนด้านเทคนิค (Technical Complexities) และพลังทางการเมือง (Political Forces) อย่างเหนียวแน่น ทำให้ระบบการศึกษาไม่สามารถจัดการพัฒนาการเรียนรู้ได้
ความท้าทายด้านเทคนิค : การเปลี่ยนทิศทางการเรียนรู้เป็นเรื่องยาก
ความสามารถที่จำกัดในการจัดการและความซับซ้อนของระบบ เป็นอุปสรรคต่อการวางแนวทาง (Orienting) เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ของภาคส่วนต่าง ๆ ในระบบการศึกษา
ประการแรก ทุกภาคส่วนของระบบ ต้องการพัฒนาการเรียนรู้ แต่ผู้ปฏิบัติกลับมีงานอื่น ๆ อีกมากมายแทรกเข้ามา..บางงานก็ระบุ บางงานก็ไม่ระบุ การส่งเสริมการเรียนรู้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในจำนวนงานเหล่านี้ และไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะบางครั้งงานอื่น ๆ อาจทำให้รู้สึกไม่ปบอดภัยหากละเว้น ในทางตรงข้ามอาจได้รับการสรรเสริญ (Lauable) หากปฏิบัติ แต่ถ้าองค์ประกอบของระบบสามารถจัดการให้สอดคล้องกับเป้าหมายงานอื่นๆได้ กลับมีควสมขัดแย้งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ในบางครั้ง...
เมื่อประเทศต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ แต่มักขาดการวัดผล (Metrics) ในการเช่นนั้น ทุก ๆ ระบบ ประเมินผลการเรียนรู้นักเรียนด้วยบางวิธี ซึ่งขาดความน่าเชื่อถือ "การประเมินผลอย่างทันท่วงที เป็นสิ่งจำเป็น ที่จะต้องนำผลไปให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้นวัตกรรม" (Timely, assessments needed to provide feedback on innovation)
"ครูต้องการความรู้จากการฝึกอบรมมากกว่าเรื่อง Active Learning Method และพวกเขาต้องการได้รับการดูแลที่เพียงพอต่อการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าการสอนในหลักสูตรใหม่ อาจต้องใช้ความสามารถมากกว่าการสอนด้วยวิธีจดบีนทึกแบบเดิม (Old rote learning method )" ....
ในกรณีที่ครูหยิบยืมวิธีการมาจากที่อื่น หากครูได้รับการศึกษาไม่ดี ขาดแรงจูงใจ และบริหารจัดการไม่คล่องตัว การปล่อยให้ครูมีอำนาจตัดสินใจมากขึ้นอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ห้องเรียนจึงมีความสำคัญ
ระบบที่ประสบความสำเร็จ จะมีการผสมผสานกันระหว่าง " การจัดการและความสอดคล้อง "
การจัดการ หมายถึง การทำให้กาเรียนรู้มีเป้าหมายที่สอดคล้องกับองค์ประกอบอื่น ๆ ของระบบ
ความสอดคล้อง หมายถึง การใช้องค์ประกอบต่าง ๆ ของระบบ เป็นแรงเสริมให้ผู้เรียนแต่ละคน มีสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ก็เป้าหมายต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของพวกเขา
เมื่อทั้งสองส่วนประสบความสำเร็จ จะทำให้การส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กมีมากขึ้น
ดังนั้น ระบบควรทำให้เป้าหมายอื่น ๆ มีสัมฤทธิผลด้วย....
ความท้าทายทางการเมือง : ผู้ที่มีบทบาทสำคัญไม่ได้ต้องการให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของนักเรียนเสมอไป
ผู้ให้การสนับสนุนเอกชนบางรายของบริการด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน การก่อสร้าง หรือโรงเรียน อาจสนับสนุนการเลือกนโยบายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนเพื่อแสวงหากำไร ครูและผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาอื่นๆ แม้จะรู้สึกมีภารกิจ แต่ก็อาจต่อสู้เพื่อรักษาการจ้างงานที่มั่นคงและปกป้องรายได้ของตนเอง ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาไม่สนใจการเรียนรู้ แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบที่บริหารจัดการไม่ดี ผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกันอาจดูใหญ่กว่าผลประโยชน์ที่สอดคล้องกับการเรียนรู้
การเลือกนโยบายเฉพาะนั้นไม่ค่อยได้รับการตัดสินว่าจะช่วยปรับปรุงการเรียนรู้หรือไม่ ส่วนใหญ่แล้ว การเลือกนั้นมักทำโดยผู้ที่มีอำนาจมากกว่าในการกำหนดนโยบาย ตัวแทนต้องรับผิดชอบซึ่งกันและกันด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แค่การเรียนรู้เท่านั้น เมื่อพิจารณาจากผลประโยชน์เหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่การเรียนรู้มักเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย
อีกปัญหาหนึ่งคือ กิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้มีความแตกต่างกันในเรื่องการจัดการ การเรียนการสอนในชั้นเรียนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่สำคัญของครู รวมถึงการโต้ตอบกันอย่างสม่ำเสมอและซ้ำๆ ระหว่างนักเรียนกับครู ลักษณะเฉพาะเหล่านี้ ร่วมกับการขาดแคลนข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการเรียนรู้ ทำให้การจัดการการเรียนรู้ยากกว่าการบรรลุ
เป้าหมายอื่นๆ
ผู้ที่มีศักยภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน เช่น นักเรียน ผู้ปกครอง และนายจ้าง มักขาดองค์กร ข่าวสาร หรือแรงจูงใจ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปกติพ่อแม่ไม่มีองค์กรระดับระบบ ไว้พูดคุยหารือ และพวกเขามักขาดความรู้ที่จะเป็นประโยชน์ เกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ สำหรับพัฒนาการเรียนรู้.
พวกเขาอาจวิตกกังวลเกี่ยวกับผลที่ตามมาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกหลานหรือตนเองจากกลุ่มผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกัน เช่น ครู ข้าราชการ หรือ นักการเมือง เป็นต้นด้วย
ส่วนนักเรียน อาจจะมีอำนาจน้อย ยกเว้นในระดับอุดมศึกษา ที่เรียกร้องได้เป็นบางครั้ง เช่นเดียวกับพ่อแม่ ที่พวกเขาอาจไม่รู้ว่าตนเองเรียนรู้ได้น้อยเพียงใด จนกว่าจะเริ่มมองหางาน
ในที่สุด ชุมชน แม้ว่าจะประสบปัญหาขาดแคลนบัณฑิตที่มีทักษะที่จะจ้างงาน แต่มักล้มเหลวในการสนับสนุนการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยกลับใช้มาตรการลดภาษีและการใช้จ่ายแทน ในทางตรงกันข้ามกับผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากการปฏิรูป ผู้ที่อาจจะเสียเปรียบมักจะตระหนักมากกว่าว่าตนเองกำลังเผชิญกับอะไร และในหลายๆ กรณี พวกเขาก็จัดระเบียบกันได้ดีขึ้นเพื่อดำเนินการร่วมกัน
ผลที่ตามมาคือ ระบบจำนวนมากติดอยู่ในกับดักการเรียนรู้ต่ำ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือความรับผิดชอบต่ำและความไม่เท่าเทียมกันสูง กับดักเหล่านี้เชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักเข้าด้วยกันผ่านสัญญาที่ไม่เป็นทางการซึ่งให้ความสำคัญกับเป้าหมายอื่นๆ เช่น การจ้างงานข้าราชการ ผลกำไรขององค์กร หรือการเลือกตั้งซ้ำ ทำให้สมดุลของความรับผิดชอบต่ำคงอยู่ต่อไป ในระบบที่มีการบริหารจัดการที่ดีกว่า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ข้าราชการและครู สามารถทุ่มเทพลังงานส่วนใหญ่ของตนเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์สำหรับนักเรียนได้ แต่ในกับดักการเรียนรู้ต่ำ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มเดียวกันนั้นขาดแรงจูงใจหรือการสนับสนุนที่จำเป็นในการมุ่งเน้นที่การเรียนรู้ ในทางกลับกัน พวกเขากลับถูกกดดันอย่างต่อเนื่องให้ให้บริการอื่นๆ เพื่อการสวดภาวนาที่มีพลังมากขึ้น ในขณะที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องจัดการวัตถุประสงค์หลายอย่าง โดยพึ่งพาซึ่งกันและกันในสภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอน ความไว้วางใจทางสังคมต่ำ และความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มักจะเป็นประโยชน์ของแต่ละฝ่ายที่จะรักษาสถานะเดิมเอาไว้ แม้ว่าสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้จำนวนมากจะดีขึ้นหากพวกเขาสามารถเปลี่ยนไปสู่สมดุลที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้
อธิบายภาพ : มันซับซ้อนกว่าที่เห็น- ผู้คนจะทำการตอบสนองต่อการเลือกของผู้อื่นทั่วทั้งระบบ
ระบบการศึกษาและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยนั้นกว้างขวางและซับซ้อนกว่าที่รายงานนี้จะครอบคลุมได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญอันดับแรกของเราในที่นี้คือการเน้นย้ำถึงสิ่งที่สามารถทำได้ทันทีเพื่อเสริมสร้างรากฐานการเรียนรู้ซึ่งเป็นรากฐานของระบบที่ประสบความสำเร็จทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทั้งการวินิจฉัยและลำดับความสำคัญในการดำเนินการมีความเกี่ยวข้องกับส่วนอื่นๆ ของระบบ เช่น การศึกษาระดับสูงหรือการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในพื้นที่เหล่านี้ ประเทศจำนวนมากประสบปัญหาการขาดความใส่ใจต่อผลลัพธ์ ช่องว่างในโอกาสที่กว้าง และอุปสรรคในระบบต่อการแก้ไขปัญหาเหล่านี้....
อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังอย่างมีเหตุผล
แม้ว่าหลาย ๆ ประเทศ ดูเหมือนจะติดกับดักผลการเรียนรู้ต่ำ แต่ครูและโรงเรียนบางแห่งกลับมีการจัดการใก้การเรียนรู้มีความเข้มแข็งขึ้นได้ มีเหตุผลอย่างน้อย 2 ประการที่ทำให้เห็นโลกในแง่ดี
ประการแรก เมื่อประเทศต่างๆ คิดค้นนวัตกรรมเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ พวกเขาสามารถดึงความรู้เชิงระบบที่มากกว่าที่เคยมีอยู่เกี่ยวกับสิ่งที่สามารถใช้ได้ในระดับจุลภาคของผู้เรียน ห้องเรียน และโรงเรียน การแทรกแซง นวัตกรรม และแนวทางต่างๆ มากมายส่งผลให้การเรียนรู้ประสบความสำเร็จอย่างมาก แนวทางที่มีแนวโน้มดีเหล่านี้มีหลายรูปแบบ เช่น วิธีการสอนแบบใหม่ วิธีการเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนและครูมีแรงจูงใจ แนวทางการจัดการโรงเรียน เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน และอาจไม่ได้ผลในทุกบริบท แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าสามารถปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้ได้นั้นควรเป็นความหวัง
ประการที่สอง ประเทศบางประเทศได้ดำเนินการปฏิรูปซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงการเรียนรู้ทั่วทั้งระบบอย่างยั่งยืน เช่น ฟินแลนด์ ชิลี เปรู โปแลนด์ และสหราชอาณาจักร เป็นต้น
ระบบการศึกษาในเซียงไฮ้ (จีน) และเวียดนามในปัจจุบัน หรือในเกาหลีเมื่อสิบปีที่ผ่านมา หรือในบราซิลและอินโดนีเซียก็กำลังก้าวหน้า แม้ว่าจะมีความท้าทายต่อการปฏิรูปและการกระจายอำนาจขนานใหญ่....
Reference:
The World Bank. (2018). Learning To Realize Education's Promise. World Development Report.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น