วุฒิภาวะด้านความสัมพันธ์
๑.
ความรักไม่ใช่เรื่องสัมพันธภาพ แต่มันคือ สภาวะ ๆ หนึ่งเท่านั้น
ดอกไม้ ไม่ได้ผลิบานเพื่อใคร
สายน้ำไหลไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าท้องทุ่งจะแห้งแล้ง หรือชุ่มชื้น
การอยู่ลำพังเพียงผู้เดียวก็มีความรักได้ เหมือนตอนอยู่กับผู้อื่น
๒.
เมื่อเราพึ่งพืงผู้อื่น เราจะมีทุกข์เสมอ
เพราะการพึ่งพิง ไม่ต่างอะไรจากการตกเป็นทาส คนที่เราไปพึ่งพิงนั้น จะเริ่มมาบงการเรา..
การพึ่งพิงฆ่าอิสรภาพ ความรักไม่สามารถผลิดอกออกมาได้ในสถาวะของ
การพึ่งพืง ความรักเป็นหน่ออ่อนที่เกิดจากอิสรภาพ มันต้องการพื้นที่ เป็นสิ่งละอียดอ่อน ไม่ต้องการให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับมัน
๓.
ผู้ที่มีวุฒิภาวะ จะสามารถยืนหยัดได้ตามลำพัง เมื่อคนมีวุฒิภาวะให้ความรัก เขาจะให้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เขาเพียงแค่ให้ไป เมื่อคนมีวุฒิภาวะให้ความรัก เขาจะรู้สึกสำนึกในบุญคุณท่าน ที่ท่านรับความรักจากเขา...
๔.
ความรักที่แท้ สนับสนุนกันและกันให้อีกคนมีอิสรภาพ อิสรภาพนั้นมีค่ายิ่งกว่าความรัก นี่คือเหตุผลที่คนอินเดีย ใฝ่หา
๓.
ผู้ที่มีวุฒิภาวะ จะสามารถยืนหยัดได้ตามลำพัง เมื่อคนมีวุฒิภาวะให้ความรัก เขาจะให้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เขาเพียงแค่ให้ไป เมื่อคนมีวุฒิภาวะให้ความรัก เขาจะรู้สึกสำนึกในบุญคุณท่าน ที่ท่านรับความรักจากเขา...
๔.
ความรักที่แท้ สนับสนุนกันและกันให้อีกคนมีอิสรภาพ อิสรภาพนั้นมีค่ายิ่งกว่าความรัก นี่คือเหตุผลที่คนอินเดีย ใฝ่หา
"โมกษะ" ซึ่งแปลว่า อิสรภาพ ความรักเยี่ยงนี้ เป็นความรักแบบพร้อมให้ หรือ แบบของขวัญ หมายถึง ความรักในสภาพที่เป็นสภาวะ เป็นสภาวะที่ได้กลับถึงบ้าน ในจุดนี้เองที่ความรักได้อุบัติขึ้น กลิ่นหอมได้เริ่มแผ่กระจาย การที่เราจะให้อะไรได้นั้น เราจะต้องมีสิ่งนั้นเสียก่อน....
๕.
มาดูสิว่าชีวิตของท่านเป็นอย่างไร มันเป็นเพียงเส้นทางของความทุกข์ ทรมาน อันยาวนานที่ตั้งต้นจากเปล ไปจบที่หลุมฝังศพ ท่านต้องการให้ขีวิตลูกของท่าน เป็นเพียงความทุกข์ทรมาน ความกังวล ความสิ้นหวัง อย่างนั้นหรือ
ความจริง เป็นสิ่งที่เขาจะต้องประสบกับตัวเอง...
๖.
เด็กที่ไม่ถูกวางเงื่อนไข..จะเติบโตขึ้นมาอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พวกเขาจะคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระ คงไว้ซึ่งการเปิดกว้าง พร้อมรับสิ่งต่าง ๆ ในอนาคตที่มิอาจกำหนดได้
๕.
มาดูสิว่าชีวิตของท่านเป็นอย่างไร มันเป็นเพียงเส้นทางของความทุกข์ ทรมาน อันยาวนานที่ตั้งต้นจากเปล ไปจบที่หลุมฝังศพ ท่านต้องการให้ขีวิตลูกของท่าน เป็นเพียงความทุกข์ทรมาน ความกังวล ความสิ้นหวัง อย่างนั้นหรือ
ความจริง เป็นสิ่งที่เขาจะต้องประสบกับตัวเอง...
๖.
เด็กที่ไม่ถูกวางเงื่อนไข..จะเติบโตขึ้นมาอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พวกเขาจะคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระ คงไว้ซึ่งการเปิดกว้าง พร้อมรับสิ่งต่าง ๆ ในอนาคตที่มิอาจกำหนดได้
ควรจะส่งเสริมให้ลูกเป็นผู้ที่แสวงหา มากกว่าที่จะบังคับให้เป็นผู้ที่ต้องเชื่อฟัง เด็กที่ไม่ถูกวางเงื่อนไขจะทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ขึ้นได้ เพราะพวกเขาจะเป็นพวกที่สามารถเจริญพัฒนา
พวกเขาจะเป็นเพียงแค่ผู้แสวงหา การแสวงหาเป็นศาสนาของพวกเขา นี่คือ นิยามของคำว่า สันยาสี ซึ่งหมายถึง การค้นคว้า แสวงหา อยากรู้อยากเห็น
ความเชื่อ จะปิดกั้นความอยากรู้อยากเห็น...
การดำรงอยู่ยอมรับเฉพาะสิ่งที่เป็นต้นฉบับเท่านั้น มันจะไม่ยอมรับสำเนา
ใด ๆ อดีตไม่ได้ให้อะไรติดมือมาเลย เราเปรียบประดุจขอทาน จงปล่อยให้ลูกหลาน เป็นตัวของตัวเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น