หมอนัดตรวจ/ 6 มิถุนายน 2568รพ.ลำปลายมาศ บุรีรัมย์
ความหมายของการตรวจเลือดที่คุณหมอนัดตรวจหลังเที่ยงคืน
เมื่อคุณหมอนัดตรวจเลือดและให้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน แสดงว่าเป็นการตรวจที่ต้องการให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่พร้อมสำหรับการตรวจผลบางอย่างที่อาจคลาดเคลื่อนหากมีการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มเข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
ต่อไปนี้คือความหมายของการตรวจเลือดแต่ละชนิดที่คุณสอบถามมา:
การตรวจที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลในเลือด
* EPG (Estimated Plasma Glucose) และ PPG (Postprandial Glucose): ปกติแล้วมักจะเป็น FBS (Fasting Blood Sugar) หรือการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร และ PPG (Postprandial Plasma Glucose) หรือการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร เพื่อดูการตอบสนองของร่างกายต่อน้ำตาล EPG ในบางกรณีอาจหมายถึงระดับน้ำตาลในพลาสมาโดยรวมที่ประเมินได้
* HbA1c (Hemoglobin A1c): การตรวจน้ำตาลสะสมในเลือด ซึ่งแสดงค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ใช้ในการวินิจฉัยและติดตามผลการรักษาโรคเบาหวาน
การตรวจที่เกี่ยวข้องกับไตและการทำงานของร่างกาย
* BUN (Blood Urea Nitrogen): การตรวจวัดระดับของเสียไนโตรเจนจากโปรตีนในเลือด ใช้ประเมินการทำงานของไต
* Cr (Creatinine): การตรวจวัดระดับของเสียครีอะตินินในเลือด ซึ่งเป็นของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญกล้ามเนื้อ ใช้ประเมินการทำงานของไตได้ดีกว่า BUN
* UPCR (Urine Protein Creatinine Ratio): อัตราส่วนโปรตีนต่อครีอะตินินในปัสสาวะ ใช้ประเมินภาวะไตเสื่อม หรือมีการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะ
* Uric Acid: การตรวจวัดกรดยูริกในเลือด หากมีระดับสูงเกินไป อาจบ่งชี้ถึงภาวะเกาต์ หรือมีความเสี่ยงต่อโรคนิ่วในไต
* UA (Urinalysis): การตรวจปัสสาวะทั่วไป เพื่อดูความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อ นิ่ว หรือภาวะไตผิดปกติ
การตรวจที่เกี่ยวข้องกับไขมันและเกลือแร่
* Lipid Profile: การตรวจระดับไขมันในเลือด ซึ่งประกอบด้วย:
* Total Cholesterol: ไขมันคอเลสเตอรอลรวม
* HDL-C (High-Density Lipoprotein Cholesterol): ไขมันดี ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
* LDL-C (Low-Density Lipoprotein Cholesterol): ไขมันไม่ดี เพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
* Triglycerides: ไขมันไตรกลีเซอไรด์
* E'lyte (Electrolytes): การตรวจระดับเกลือแร่ในเลือดที่สำคัญ เช่น โซเดียม (Na+), โพแทสเซียม (K+), คลอไรด์ (Cl-) เพื่อประเมินสมดุลของเหลวและเกลือแร่ในร่างกาย
* Ca+ (Calcium) และ PO4 (Phosphate): การตรวจระดับแคลเซียมและฟอสเฟตในเลือด ซึ่งสำคัญต่อสุขภาพกระดูก การทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาท
การตรวจที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดและอวัยวะอื่นๆ
* CBC (Complete Blood Count): การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เพื่อดูจำนวนเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อ หรือความผิดปกติของไขกระดูก
* Hct (Hematocrit): ค่าความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงในเลือด เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจ CBC ใช้ประเมินภาวะโลหิตจาง หรือภาวะขาดน้ำ
* Serum Alb (Serum Albumin): การตรวจวัดระดับโปรตีนอัลบูมินในเลือด ซึ่งสร้างโดยตับ ใช้ประเมินภาวะโภชนาการ การทำงานของตับ และภาวะการอักเสบ
* Microalb (Microalbuminuria): การตรวจหาโปรตีนอัลบูมินปริมาณเล็กน้อยในปัสสาวะ ใช้ตรวจคัดกรองภาวะไตเสื่อมระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
* SGOT (Serum Glutamic Oxaloacetic Transaminase) หรือ AST (Aspartate Aminotransferase): เอนไซม์ที่พบมากในตับและหัวใจ หากมีระดับสูง อาจบ่งชี้ถึงความเสียหายของเซลล์ตับหรือหัวใจ
* SGPT (Serum Glutamic Pyruvic Transaminase) หรือ ALT (Alanine Aminotransferase): เอนไซม์ที่พบมากในตับ หากมีระดับสูง มักบ่งชี้ถึงความเสียหายของเซลล์ตับได้จำเพาะเจาะจงกว่า SGOT
* Alk (Alkaline Phosphatase): เอนไซม์ที่พบได้ในตับ กระดูก และทางเดินน้ำดี หากมีระดับสูง อาจบ่งชี้ถึงปัญหาตับ ถุงน้ำดี หรือกระดูก
การตรวจเลือดเหล่านี้จะช่วยให้คุณหมอประเมินสุขภาพโดยรวมของคุณ และวินิจฉัยความผิดปกติหรือความเสี่ยงของโรคต่างๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ผลการพบแพทย์
ไม่มีการตรวจเลือด แต่ให้ทานอาหารเช้าและกินยาตามปกติ จึงวัดความดันเลือด ได้
= 119 mmHg
= ปกติ แต่รับยามากินต่อ จึงถึงวันนัดคราวหน้า 15 สิงหาคม 2568
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น