การช่วยเหลือ 'พิตบูล': บทพิสูจน์ "เจตจำนงดี" และศักดิ์ศรีที่เหนือกว่าราคา....
การช่วยเหลือ 'พิตบูล': บทพิสูจน์ "เจตจำนงดี" และศักดิ์ศรีที่เหนือกว่าราคา
หลายครั้งในชีวิตที่เราต้องตัดสินใจโดยมีคำถามคาใจว่า "การกระทำนี้ได้อะไรคืนมา?" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เราต้องทุ่มเททรัพยากรให้กับสิ่งมีชีวิตที่เรานิยามไว้แค่ "หมาตัวหนึ่ง"
ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกใหม่ในครอบครัว—สุนัขที่มีลักษณะคล้ายพันธุ์ อเมริกันพิตบูล เทอร์เรีย (American Pit Bull Terrier) —ได้เผยให้เห็นความขัดแย้งเชิงจริยธรรม "ระหว่างการมองหาผลตอบแทนกับการทำตาม หน้าที่ทางศีลธรรม ที่แท้จริง"
เมื่อความเป็น "พิตบูล" ไม่สำคัญเท่า "อาการเซื่องซึม"
แรกเริ่มเดิมที สุนัขตัวนี้ถูกประเมินค่าตามลักษณะทางกายภาพ: ขนาดกลาง ขนสั้นเรียบ มีโครงสร้างกล้ามเนื้อที่ชัดเจน ซึ่ง Google ระบุว่าคล้ายพันธุ์พิตบูล เทอร์เรีย แม้ในอดีตมันจะถูกเพาะพันธุ์เพื่อการต่อสู้ แต่อุปนิสัยของพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี เมื่อมันมีอาการเซื่องซึม เหงาหงอย และปฏิเสธอาหาร สัญชาตญาณแรกของเจ้าของส่วนหนึ่งอาจเป็นการประเมินค่าตามปกติวิสัยของสัตว์เลี้ยงที่เคยผ่านมา: "ปล่อยให้ดูแลตัวเอง"
แต่สำหรับครั้งนี้.. การตัดสินใจพาไป "หาหมอ" คือจุดพลิกผันที่สำคัญ เมื่อผลการตรวจออกมาว่าจำเป็นต้อง "ผ่าตัดมดลูกที่อักเสบ" พร้อมค่าใช้จ่ายจำนวนมากและต้องพักฟื้นที่คลินิกสัตว์แพทย์หลายวัน
คำถามเชิงปฏิบัติจึงเกิดขึ้นทันที: "จะได้อะไรคืนมากับชีวิตของหมาตัวหนึ่ง ที่ต้องลงทุนดูแลรักษาขนาดนี้?"
คำถามนี้สะท้อนถึงการมองหา แรงจูงใจจากภายนอก (External Motivation) เป็นเป้าหมายสูงสุด !!
"เจตจำนงดี" ของคานท์: ศีลธรรมที่ปราศจากเงื่อนไข
ประเด็นนี้สามารถคลี่คลายได้ด้วยหลัก จริยศาสตร์เชิงหน้าที่ (Deontological Ethics) ของ อิมมานูเอล คานท์ (Immanuel Kant) คานท์กล่าวว่า "เจตจำนงดี" (Good Will) คือสิ่งเดียวที่ดีอย่างไม่มีเงื่อนไข และเป็นแก่นหลักที่กำหนดคุณค่าทางศีลธรรม การกระทำใดที่มีคุณค่าทางศีลธรรมจะต้องเกิดจาก หน้าที่ และ ความเคารพต่อกฎศีลธรรมสากลด้วยเหตุผลบริสุทธิ์ โดยไม่ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่น่าพอใจหรือผลตอบแทน (Kant, 1785/1997)
การตั้งคำถามว่า "กับการช่วยชีวิตสุนัขตัวหนึ่งมันได้อะไรคืนมาเป็นผลตอบแทนหรือไม่" จึงเป็นการมองหาแรงจูงใจที่ตรง ข้าม กับศีลธรรมแท้ เพราะเป็นการตัดสินใจที่อยู่บน เงื่อนไขภายนอก หากการกระทำนั้นทำลงไปเพียงเพราะ ตระหนักว่าควรทำตามหน้าที่ ของคนเป็นเจ้าของ หรือหน้าที่โดยตรงของมนุษย์ในการไม่เพิกเฉยต่อความทุกข์ของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในความดูแล—นั่นคือ ศีลธรรมแท้
ทวงคืนศักดิ์ศรี: มนุษย์ไม่ใช่แค่ตรรกะและผลลัพธ์
คานท์ยังได้เสนอ สูตรแห่งมนุษยชาติ (Formula of Humanity) ที่ระบุว่า มนุษย์ต้องถูกปฏิบัติต่อ ในฐานะ "เป้าหมายในตัวเอง" (Ends in Themselves) นี่คือ รากฐานของ ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์....
หากเราตัดสินการกระทำของเราด้วยตรรกะเชิงผลตอบแทนเท่านั้น เราจะลดทอนคุณค่าของตนเองและผู้อื่นให้เหลือเพียง ตรรกะและผลลัพธ์บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่นำไปสู่การขาด เจตจำนงภายใน และความว่างเปล่าทางจิตวิญญาณ (ฐนพงศ์ ลือขจรชัย, 2565)
ในทางกลับกัน การตัดสินใจดูแลรักษา 'พิตบูล' ด้วยความเต็มใจ โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนที่สูงหรือผลตอบแทนที่มองไม่เห็น จึงเป็นการยืนยัน ศักดิ์ศรี ของผู้กระทำในฐานะมนุษย์ผู้มีเหตุผลและมี "เจตจำนงดี"
ท้ายที่สุด 'พิตบูล' ตัวนั้นก็กลับมาแข็งแรง กินอาหารได้ และเห่าหอนเสียงดังเกือบเป็นปกติ
การฟื้นตัวของมัน อาจเป็นผลลัพธ์ที่น่าชื่นใจ แต่คุณค่าที่แท้จริงของการกระทำนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในจิตวิญญาณของผู้ที่ทำตาม หน้าที่ที่ปราศจากเงื่อนไข ซึ่งเหนือกว่ามูลค่าทางการเงินใด ๆ.....
รายการอ้างอิง (References)
Kant, I. (1997). Groundwork of the metaphysics of morals (M. Gregor, Ed. & Trans.). Cambridge University Press. (Original work published 1785)
ฐนพงศ์ ลือขจรชัย. (2565). รางวัลแด่ความว่างเปล่า: เมื่อการศึกษาทำให้มนุษย์ลืมว่าฝัน. Illuminations Editions.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น