ความงดงามของเช้าวันใหม่: จากจุดประสงค์ส่วนตัวสู่การแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่
การเริ่มต้นชีวิตในแต่ละวันเป็นทั้งกระบวนการอัตโนมัติ และการตัดสินใจที่ตั้งใจ เพื่อเริ่มต้นอย่างมีจุดประสงค์
ตั้งแต่การตื่นนอน เรามักตั้งคำถามภายในจิตใจโดยอัตโนมัติ ซึ่งแตกต่างไปจากภารกิจประจำวันทั่วไป คำถามที่เลือก ในแต่ละเช้ามีพลังในการตรึงความคิด ให้จดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ๆ มันก่อให้เกิดแรงบันดาลใจและขยายพื้นที่ไปสู่ องค์ความรู้ในตนเอง (Self-Knowledge) ที่มีความหมายต่อชีวิตอย่างกว้างขวาง
เพื่อให้แนวคิดนี้หยั่งรากลงสู่ภายในอย่างลึกซึ้ง "การเขียน" จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการ จัดระเบียบความคิด ความเข้าใจ และสร้างความหมายให้แก่ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่โตก็ตาม จุดประสงค์ไม่เพียงแต่เหนี่ยวนำให้เราอยู่กับ ปัจจุบันขณะ แต่ยังเป็นเข็มทิศนำทางให้เราใช้ชีวิตในวันนั้น ๆ ได้อย่างมีทิศทาง
การนิเทศแบบมีส่วนร่วม: สพม.บุรีรัมย์
ภารกิจใหญ่ในวันทำงานและงานเล็กที่ยิ่งใหญ่ในวันพักผ่อน
ในเช้าวันนี้ ขณะที่กำลังจะตั้งคำถามนำทางชีวิตส่วนตัวนั้น เพื่อนร่วมงานส่งข้อความมาแจ้งว่า คณะของเขากำลังออก นิเทศโรงเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 ร่วมกับคณะครู
งานด้านการศึกษาเป็นงานที่ ใหญ่เกินกว่าคนหนึ่งคนจะแบกรับไว้ได้โดยลำพัง กลยุทธ์ "การนิเทศแบบมีส่วนร่วม" จึงเป็นหัวใจสำคัญของคณะศึกษานิเทศก์ใน สพม.บุรีรัมย์ ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงของการแบ่งกลุ่มปฏิบัติงานออกไปตามสหวิทยาเขตต่าง ๆ ทั้ง 9 แห่ง ตลอดทั้งเดือน
คำถามที่ผุดขึ้นในใจคือ: “What gives meaning to my day, even if no one else sees, understands, or acknowledges it?” (แล้วอะไรที่ทำให้วันของผมมีความหมาย แม้ว่าจะไม่มีใครเห็น ใครเข้าใจ หรือยอมรับมันก็ตาม?)
ในขณะที่เพื่อน ๆ ออกไปทำงานใหญ่ งานเล็ก ๆ ของผมในวันนี้คืออะไร?
มันอาจเป็นการอ่าน การเขียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ จิตวิญญาณที่ดำรงอยู่กับโลกใบนี้ อย่างที่ข้อความบางส่วนกล่าวไว้อย่างสร้างสรรค์ว่า "I find that to be a beautiful form of manifestation." (ฉันพบว่ามันเป็นการแสดงออกที่งดงาม)
ณ สหวิทยาเขตพุทไธสง (10/11/68)
องค์ความรู้และการแบ่งปันคือจุดประสงค์
ผลลัพธ์สุดท้ายของความงดงามนี้คือ "องค์ความรู้" ซึ่งไม่ได้มีไว้สำหรับตัวเราเองเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่นด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า "Knowledge alone doesn't hold purpose if I keep it myself." (ความรู้เพียงอย่างเดียวไม่มีความหมายหากเราเก็บรักษาไว้เอง)
การแบ่งปันสิ่งที่เราเรียนรู้จึงเป็นสื่อกลางของความหมายแห่งการให้ ซึ่งสอดคล้องกับคำปราชญ์ที่กล่าวไว้ว่า "ชีวิตคือสิ่งที่เราได้มา การดำรงอยู่คือ สิ่งที่เราให้ไป"
สำหรับการนิเทศการศึกษาแบบมีส่วนร่วมนั้น ก็คือการแบ่งปันองค์ความรู้ระหว่างกันอย่างตรงไปตรงมาในพื้นที่การทำงาน การแบ่งพื้นที่ให้กันและกัน คือการให้แต่ละคนมีจุดยืน ซึ่งเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งระหว่างมนุษย์
งานเล็กน้อยที่ดูไม่เดียวดาย
สำหรับผมที่สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Self-Knowledge) การแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย เมื่อได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มันเป็นเหมือน ไฟที่ส่องสว่างอยู่ภายใน และแน่นอนว่า "กลุ่มเพื่อน" ในเครื่องมือเทคโนโลยี ได้สร้างความรู้สึกอันบรรเจิดนี้อย่างทรงพลัง ผมอยากให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสความรู้สึกอันสุนทรีย์นี้จากการแบ่งปันเช่นกัน
แม้ในแต่ละวัน เราอาจทำอะไรตามลำพังในมุมอันสงบเงียบ แต่แท้จริงแล้ว งานที่ดูเหมือนเล็ก ๆ นั้น กลับยิ่งใหญ่ในเวลาเดียวกัน "I am not alone, and that is the truth behind everything." (ผมไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก นั่นคือความจริงที่อยู่เบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่าง)
รอบ ๆ ตัวเราเต็มไปด้วยสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่บนโลกใบนี้ ที่เรามองเห็นได้ มันเป็นที่มาของการสร้างสรรค์—ทั้งเรื่องดีและไม่ดี—โดยผ่านเส้นทางของการใช้ชีวิตของเรา ผมได้ใช้เครื่องมือไฮเทคเพื่อสร้างและแบ่งปันผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีไปสู่กลุ่มเพื่อน ๆ แต่สำหรับเพื่อน ๆ ศึกษานิเทศก์ใช้ "ซอฟต์แวร์" ในการสร้างและแบ่งปันร่วมกับเพื่อนครูในโรงเรียน
ไม่ว่างานเล็กหรืองานใหญ่ ทุกสิ่งสามารถสร้างสรรค์ได้ด้วยตัวเราเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโลกภายนอก "ความงดงามเหล่านั้น มาจากภายใน" และผลจากการแบ่งปันนั้น มันงดงามยิ่งกว่า เมื่อเราได้ตระหนักและรับรู้ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมว่า มันได้ เบ่งบานในใจของผู้คน
และนี่คือ จุดประสงค์ของการดำเนินชีวิตของผมในวันนี้.การสร้างและแบ่งปันความหมาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น