เจมส์ วัตสัน" บิดาแห่ง DNA เสียชีวิตในวัย 97 ปี ปิดตำนานนักวิทย์รางวัลโนเบล ผู้ไขความลับของชีวิต"
"เจมส์ วัตสัน" บิดาแห่ง DNA เสียชีวิตในวัย 97 ปี ปิดตำนานนักวิทย์รางวัลโนเบล ผู้ไขความลับของชีวิต" (James Watson, Nobel Prize-winning co-discoverer of DNA’s double-helix structure, dead at 97)
: ไทยรัฐออนไลน์ 8 Nov 2025
"เจมส์ วัตสัน" นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ร่วมค้นพบโครงสร้างเกลียวคู่ของ DNA เสียชีวิตแล้วในวัย 97 ปี หลังอุทิศชีวิตให้กับงานวิจัยทางพันธุศาสตร์นานหลายทศวรรษ"
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าว CNN รายงานว่า นายเจมส์ วัตสัน นักชีววิทยาชาวอเมริกัน ผู้ร่วมค้นพบโครงสร้างเกลียวคู่ของดีเอ็นเอ (DNA double helix) และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ปี 2505 เสียชีวิตแล้วในวัย 97 ปี โดยห้องปฏิบัติการโคลด์ สปริง ฮาร์เบอร์ (Cold Spring Harbor Laboratory) ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาทำงานวิจัยมานานหลายสิบปี ได้ยืนยันข่าวการเสียชีวิต
โดยนายวัตสันร่วมกับนายฟรานซิส คริก และนายมอริซ วิลคินส์ ค้นพบโครงสร้างดีเอ็นเอเมื่อปี 2496 จากภาพถ่ายผลึกเอ็กซ์เรย์ของโรซาลินด์ แฟรงคลิน ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ได้เปิดประตูสู่วงการพันธุศาสตร์สมัยใหม่และเป็นรากฐานสำคัญของชีววิทยาระดับโมเลกุล และในปี 2505 ทั้งสามได้รับรางวัลโนเบลร่วมกันจากผลงานนี้
อย่างไรก็ตาม ช่วงบั้นปลายชีวิตของเขากลับเต็มไปด้วยความขัดแย้ง จากบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร
ไทมส์ ในปี 2550 ที่เขาได้กล่าวแสดงความคิดเห็นเชื่อมโยงเรื่องเชื้อชาติและสติปัญญาว่า เขามองอนาคตของแอฟริกาอย่างสิ้นหวัง เพราะนโยบายทางสังคมของเราสร้างขึ้นจากความเชื่อว่าพวกเขามีสติปัญญาเท่ากับเรา ซึ่งผลทดสอบกลับบอกว่าไม่ใช่
ต่อมาถ้อยคำนี้ทำให้เขาถูกปลดจากตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย ของ Cold Spring Harbor Laboratory
และในปี 2562 เขายังจุดชนวนความไม่พอใจอีกครั้ง หลังให้สัมภาษณ์ซ้ำในทำนองเดิม ส่งผลให้สถาบันตัดสินใจถอดเกียรติและตำแหน่งทั้งหมด พร้อมออกแถลงการณ์ระบุว่า คำพูดของดร.วัตสันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและขัดต่อหลักวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ ในปี 2557 นายวัตสันเคยขายเหรียญทองรางวัลโนเบลของเขาในการประมูล ได้เงินราว 4.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 170 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่าต้องการขายเพราะถูกวงการวิทยาศาสตร์ทอดทิ้งหลังคำพูดอื้อฉาวเรื่องเชื้อชาติ
ซึ่งแม้ชีวิตของเขาจะเต็มไปด้วยข้อถกเถียง แต่มรดกทางวิทยาศาสตร์ของเขายังคงเป็นรากฐานสำคัญของความเข้าใจในเรื่องพันธุกรรมของมนุษยชาติ ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าการแพทย์และวิทยาศาสตร์โลกไปตลอดกาล.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น