รายงานสรุปผลการประเมินการปฏิบัติงานตามรูปแบบโมเดล PPE โรงเรียนตลาดโพธิ์พิทยาคม ปีการศึกษา 2567.
รายงานสรุปผลการประเมินการปฏิบัติงานตามรูปแบบโมเดล PPE
โรงเรียนตลาดโพธิ์พิทยาคม ปีการศึกษา 2567
(อ้างอิงจากรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2567)
1. บทสรุปสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary)
จากการวิเคราะห์รายงาน SAR ปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียนตลาดโพธิ์พิทยาคมตามหลักการ โมเดล PPE (Practicus, Interaction Mapping, Adaptive Capacity, Meaningful Outcomes) พบว่าโรงเรียนมี ศักยภาพเชิงนวัตกรรมและความสามารถในการปรับตัวสูง โดยเฉพาะการบริหารจัดการและกระบวนการสอน (มาตรฐาน 2 และ 3: ดีเลิศ)
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนกำลังเผชิญกับ ความขัดแย้งเชิงคุณค่า (Value Conflict) ที่เป็นความท้าทายหลัก:
ความจริงเชิงรูปแบบ: ผู้เรียนประสบความสำเร็จใน ผลลัพธ์ที่มีความหมาย (Meaningful Outcomes) โดยมีทักษะการคิดวิเคราะห์/นวัตกรรม ในระดับ ดีเลิศ (ร้อยละ 85.92)
ปัญหาที่ปรากฏ: แต่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวม (มาตรฐาน 1.1) ได้เพียง "ดี" ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย "ดีเลิศ" ที่ตั้งไว้
การนิเทศและการบริหารในยุค AI จึงต้องมุ่งเน้นการ สร้างสะพานเชื่อม ระหว่างทักษะการคิดที่ยอดเยี่ยมนี้กับผลลัพธ์เชิงปริมาณภายนอก
2. การทำความเข้าใจความจริงเชิงรูปแบบ (Understanding Patterned Reality)
การวิเคราะห์รูปแบบการทำงานของโรงเรียนตามหลักการ PPE มีดังนี้:
| องค์ประกอบ PPE | รูปแบบที่ตรวจพบ (Pattern) | ข้อค้นพบสำคัญที่ต้องนำไปพิจารณา |
| P: Meaningful Outcomes | ความขัดแย้งเชิงคุณค่าในการวัดผล | โรงเรียนประสบความสำเร็จในการสร้าง ทักษะการคิดเชิงลึก ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่มีความหมาย แต่ระบบการวัดผลภายนอกยังคงทำให้ ผลสัมฤทธิ์รวม กลายเป็นจุดอ่อนหลัก |
I: Interaction Mapping | คอขวดของพลังงานความรู้ (Knowledge Bottleneck) | พลังงานความรู้ด้านทักษะ (จากครูที่ใช้ Active Learning) มีการไหลเวียนดี แต่ไม่สามารถแปลงเป็น พลังงานความรู้เชิงเนื้อหา ที่จำเป็นต่อการสอบมาตรฐานภายนอกได้อย่างสมบูรณ์ (ทักษะและเนื้อหายังคงแยกส่วนกัน) |
| A: Adaptive Capacity | Agile Learning (การเรียนรู้และปรับปรุงได้ทันที) | โรงเรียนมีความสามารถในการปรับตัวสูง (พิสูจน์ได้จากเกรดเฉลี่ยที่สูงขึ้นในภาคเรียนที่ 2) โดยใช้ ข้อมูลจริงที่ได้รับระหว่างทาง ในการนำไปสู่การแทรกแซงและแก้ไขปัญหาทันที (Agile PDCA Cycle) |
3. ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์ต่อ ก.ต.ป.น. (Strategic Recommendations)
เพื่อส่งเสริมการปรับตัวและสร้างผลลัพธ์ที่มีความหมายอย่างยั่งยืน ก.ต.ป.น. ควรพิจารณาการเปลี่ยนทิศทางการนิเทศจาก "การบังคับใช้กฎ" ไปสู่ "การเสริมสร้างกลไกขับเคลื่อนภายใน" ดังนี้:
3.1 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย:
1 )การปรับสมดุลคุณค่า (Policy: Value Alignment)
นโยบายการให้ความสำคัญกับทักษะในการประเมินผล:
กำหนดให้การวัดและประเมินผลในชั้นเรียนต้องให้น้ำหนักกับ ทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการสร้างนวัตกรรม ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 50 ของคะแนนรวมทั้งหมด เพื่อส่งสัญญาณเชิงนโยบายที่ชัดเจนว่าทักษะเหล่านี้คือ คุณค่าหลัก ของโรงเรียนที่มิอาจถูกละเลย (Meaningful Outcomes)
2) นโยบายการใช้ AI เป็นเครื่องมือเชื่อมช่องว่าง:
สนับสนุนและกำหนดให้การใช้ AI/ข้อมูล เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนิเทศภายใน (Internal Supervision) เพื่อช่วยครูในการ "วิเคราะห์ช่องว่าง" ระหว่างทักษะที่นักเรียนมี (ดีเลิศ) กับเนื้อหาที่นักเรียนขาด (ผลสัมฤทธิ์รวม) เพื่อออกแบบบทเรียนที่บูรณาการได้อย่างแม่นยำ
3.2 ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ: การเสริมสร้างกลไก Agile (Practical: Enhancing Agile Capacity)
1) จัดตั้งคณะทำงานบูรณาการทักษะ-เนื้อหา (Bridging Team):
ส่งเสริมให้เกิด การไหลเวียนความรู้แบบ 360 องศา โดยจัดตั้งทีมเฉพาะกิจที่ประกอบด้วยครูผู้เชี่ยวชาญด้าน Active Learning/ทักษะ และครูผู้เชี่ยวชาญด้าน เนื้อหาวิชาหลัก เพื่อร่วมกันออกแบบ "โจทย์ปัญหาที่ซับซ้อน" ที่บังคับให้นักเรียนต้องใช้ทักษะการคิดระดับดีเลิศมาแก้ปัญหาเชิงเนื้อหา เพื่อแก้ไข "คอขวดของพลังงานความรู้" โดยตรง
2) สถาปนาวงจร Agile PDCA เป็นมาตรการหลัก:
ให้โรงเรียนยกระดับ ความสามารถในการปรับตัว (Adaptive Capacity) โดยเปลี่ยนรูปแบบการประเมินและการวางแผนแก้ไขให้เป็น วงจรระยะสั้น (Agile Cycle) โดยมีการทบทวนผลสัมฤทธิ์และวางแผนแทรกแซงใหม่ ทุกไตรมาส แทนที่จะรอรายงานสิ้นปี เพื่อใช้ประโยชน์จาก "Agile Learning" ที่โรงเรียนทำได้ดีอยู่แล้วให้เกิดความยั่งยืนยิ่งขึ้น
3) การนิเทศแบบโค้ชชิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Coaching):
เปลี่ยนบทบาทการนิเทศจากผู้ตรวจสอบเป็น "โค้ชข้อมูล" โดยใช้ ระบบ AI/Data Analytics ในการชี้เป้าปัญหา (Early Warning Signal) และนำข้อมูลนั้นไปให้คำปรึกษากับครูเป็นรายบุคคลเพื่อปรับปรุงการสอน ทันที ที่พบสัญญาณอ่อนแอ
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นด้วยความเชื่อมั่นว่า โรงเรียนตลาดโพธิ์พิทยาคมมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการก้าวสู่ยุคการศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ตามรูปแบบ PPE จะช่วยให้โรงเรียนบรรลุเป้าหมาย "ดีเลิศ" ในทุกมิติได้อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น