ใช้ข้อมูลเพื่อความรับผิดชอบ (Information for Accountability)ของโรงเรียน
สุริยา เผือกพันธ์
ข้อมูลที่นำมาใช้เพื่อความรับผิดชอบเป็นกลยุทธ์ที่อาศัยพลังของข้อมูลมาเสริมสร้างความสามารถของนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้ครู ผู้บริหารโรงเรียน หน่วยงานทางการศึกษารับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของการให้บริการ เอกสารอ้างอิง Making Schools Work (The World Bank, 2011) ระบุว่า ข้อมูลสำหรับความรับผิดชอบสามารถปรับปรุงคุณภาพการศึกษาได้ โดยการสร้างแรงจูงใจเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเรียกร้องบริการที่ดีขึ้น สามารถปรับปรุงกลไกความโปร่งใสและข้อเสนอแนะแก่ผู้ให้บริการ
หลักฐานเกี่ยวกับผลกระทบที่ใช้แสดงเพื่อความรับผิดชอบมีหลายรายการ เช่นเอกสารรายงานการปฏิบัติงานของโรงเรียน การทดสอบที่ได้มาตรฐานและการสำรวจติดตามการใช้จ่ายสาธารณะ เป็นต้น
การใช้การประเมินผลกระทบ (Use of impact evaluations)
การประเมินผลกระทบ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เข้มงวดและมีคุณค่า นำมาใช้เพื่อประเมินประสิทธิผลของนโยบายและหลักสูตรการเรียนการสอน และใช้เพื่อวัดผลกระทบเชิงสาเหตุของการปฏิรูปความรับผิดชอบต่างๆ เช่น การจัดเตรียมข้อมูล การบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน และการสร้างสิ่งจูงใจของครู ทั้งนี้ เพื่อผลลัพธ์ของนักเรียนที่ดีในท้ายที่สุด
การประเมินผลกระทบของบทเรียนต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
แสดงขนาดผลกระทบ (Effect Size) ที่สะท้อนผลจากการบริหารโรงเรียน SBM
ความรับผิดชอบที่สำคัญคือ ครูต้องประเมินผลกระทบต่อการเรียนรู้ของนักเรียนและให้ข้อมูลมาดำเนินการปรับปรุงการเรียนการสอนบทเรียนต้องก่อผลลัพธ์การเรียนรู้อย่างมีระดับผลกระทบสูง (High effect size)
ค่าผลกระทบต่อการเรียนรู้
การวัดผลกระทบต่อการเรียนรู้ นิยมวัดเป็น effect size โดยมีค่า 0.40 เป็นจุดตัดค่า ES = 0.40 เป็นค่าเฉลี่ยของพัฒนาการการเรียนรู้ ของนักเรียนในเวลา 1 ปี
วิธีการจัดการบทเรียนที่ให้ ES ต่ำกว่า 0.40 จึงถือว่า ให้ผลต่ำกว่ามาตรฐานต้องการการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุง
ครูต้องมีความรู้สึกรับผิดชอบว่า "งานที่ทำก่อผลดี" (Sense of efficacy) รู้ร้อนรู้หนาวต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน
นำปัญหาเข้าสู่กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) เพื่อแสวงหาวิธีการช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหา โดยไม่ทิ้งนักเรียนคนใดคนหนึ่งไว้ข้างหลัง(No Child Left Behind)
การหาค่าผลกระทบ
ประเมินก่อนสอน (Pre-assessment) มีประโยชน์ 2 ประการ
1. เก็บผลเอาไว้เปรียบเทียบกับผล Post-assessment สำหรับใช้คำนวณหาค่าeffect size
2. ช่วยให้ครูรู้ว่า นักเรียนคนไหนมีพื้นความรู้อ่อน และต้งการความช่วยเหลือพิเศษครูสามารถนำข้อมูลมาใช้ออกแบบการดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
ประเมินหลังสอน (Post- assessment) หลังสอนจบบทเรียนก็ดำเนินการทดสอบซ้ำทันที ด้วยแบบทดสอบเดียวกันกับ pre-assessment
วิธีการคำนวณและตีความค่า Effect Size
นำคะแนนของนักเรียนแต่ละคนในชั้นมาลงใน excel spreadsheet ซึ่งจะคำนวณmean และ SD ของคะแนนนักเรียนทั้งชั้น ให้แยกเป็นชุดของ pre - assessment และของชุด post - assessment นำค่า SD ของทั้งสองชุด มาบวกกันหารด้วย 2 เป็นค่าSD เฉลี่ย สำหรับใช้ในการคำนวณ effect size
Effect Size = (mean post - assessment- mean pre - assessment) /SD เฉลี่ย
คำนวณ effect size ของนักเรียน แต่ละคนได้โดย เอาค่าคะแนน post - assessment ลบด้วย ค่าคะแนน pre - assessment หารด้วยค่า SD เฉลี่ย
ครูจะรู้ว่า นักเรียนคนไหนบ้าง ที่ค่า effect size ต่ำกว่า 0.40 และต้องการความช่วยเหลือ
นำผลมาแจ้งกับนักเรียนเพื่อปรึกษาหารือ ในการพัฒนาวิธีเรียนของตนและตั้งเป้าหมายสูงขึ้นในบทเรียนต่อไป..
จะเห็นว่า " effect size เป็นเครื่องมือสำคัญยิ่ง ที่ทำให้นักเรียนแต่ละคนและครูเห็นผลการเรียน และวิธีการเรียนชัดเจน ที่เรียกว่า Visible learning"
เป็นการเน้นที่วิธีการทำงาน วิธีคิดของนักเรียน (Metacognition) ไม่ใช่เน้นที่ผลการเรียน …..
เอกสารอ้างอิง:
พบกับ: ตรวจสอบกับ Bing 6/2/2567
การกำหนดนโยบายอย่างรอบรู้ผ่านการประเมินผลกระทบ - ธนาคารโลก https://documents1.worldbank.org/curated/en/355711468164050419/pdf/916610BRI0Box300also06050000Public0.pdf.
วิจารณ์ พานิช, วิมลศรี ศุษิลวรณ์. (2563). ครูเพื่อศิษย์ สร้างการเรียน
รู้สู่ระดับเชื่อมโยง.
กรุงเทพ : มูลนิธิสยามกัม
มาจล.
Barbara Bruns, Deon Filmer, and Harry Anthony Patrinos. (2011).
Making Schools
Work. :New Evidence
on Accountability
Reforms.
The World Bank.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น