เด็กไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ (Children don’t live with parents)

 


                    สุริยา เผือกพันธ์


      สิ่งที่โรงเรียนไม่ได้นำเสนออย่างเป็นทางการเหมือนกับการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา แต่กลับเป็นการให้ข้อมูลผ่านความรู้สึกวิตกกังวลในวงสนทนานอกรอบมากกว่า สิ่งนั้นคือ เด็กไม่ได้อยู่กับพ่อแม่...

        จากผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยล่าสุด พบว่าเด็กอายุไม่เกิน 17 ปี ร้อยละ 25 หรือประมาณ 3 ล้านคน ไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุหลักคือพ่อแม่มักย้ายถิ่นเพื่อหางานทำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตและพัฒนาการของเด็ก


          การไม่ได้อยู่กับพ่อแม่อาจส่งผล
กระทบต่อการเรียนรู้ในระบบโรงเรียนของเด็กได้หลายแง่ ดังนี้
         1. เด็กอาจมีความเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า ซึ่งลดประสิทธิภาพในการเรียนรู้และผลการเรียนลง
          2. เด็กอาจขาดการสนับสนุนทางอารมณ์ การสื่อสาร และการแก้ไขปัญหา ที่พ่อแม่อาจให้ได้ ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาทักษะสังคม อารมณ์ และปัญญา
           3. เด็กอาจไม่มีวินัย ไม่มีความรับผิดชอบ หรือไม่มีเป้าหมายในการเรียน ซึ่งส่งผลต่อการมีส่วนร่วม การทำงานเป็น
กลุ่ม และการเรียนรู้ตลอดชีวิต
           4. เด็กอาจมีปัญหาทางสุขภาพ โภชนาการ หรือความปลอดภัย ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงการศึกษา การเข้าร่วมการเรียนรู้ และการมีสุขภาพที่ดี
           5. เด็กอาจไม่ได้รับการจด
ทะเบียนสมรสกับพ่อแม่ ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงสิทธิ์การศึกษา การรับบริการสาธารณสุข และการได้รับมรดก
       เอริก เจนเซน อดีตครูจากแซนดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนียผู้มุ่งมั่นศึกษาและวิเคราะห์งานวิจัยด้านพัฒนาการทางสมองและออกแบบกลวิธีการสอนที่ครูอาจารย์นำไปประยุกต์และปฏิบัติได้จริงตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 ได้เสนอแนะแนวปฏิบัติสำหรับครู เพื่อนำไปกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนมากยิ่ขี้น ด้วยการปลูกฝังชุดความคิดประเภทต่าง ๆ ไว้ หลายชุด ดังนี้..


ชุดความคิดสานสัมพันธ์
     หลักการ
      1.1 เราต่างเชื่อมโยงกันในชีวิต
แห่งการเรียนรู้ จงสานสัมพันธ์ในฐานะบุคคล (พวกพ้อง) ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วความสัมพันธ์ในฐานะครูผู้สอนจะเกิดตามมา
       1.2 ความสัมพันธ์ที่ดี มีขนาดผล
กระทบ ด้านการเรียนรู้ อยู่ที่ 0.72  ความสัมพันธ์จึงถือว่า เป็นปัจจัยกระตุ้นขนาดผลกระทบที่สำคัญ และมีน้ำหนักอย่างยิ่ง (Hattie, 2009) 
       ข้อเท็จจริง 
                ในกลุ่มเด็กด้อยโอกาส ความสัมพันธ์อันดีของผู้ใหญ่ ช่วยบรรเทาความตึงเครียดของเด็กได้ เป็นอย่างดี ( Miller-Lewis et al. 2014)
                 เมื่อครูเอาใจใส่ด้านการสอนและอารมณ์ความรู้สึก "นักเรียนฐานะยากจน จะมีทักษะและผลการเรียน ในระดับเดียวกันกับเพื่นนักเรียนที่มาจากครอบครัวฐานะดี (Hamre &Pianta, 2005) 

                 ข้อเสนอรูปแบบการวิจัย
                 เปรียบเทียบผลการเรียนรู้
ระหว่างกลุ่มทดลอง (สอนเน้นความสัมพันธ์ด้านอารมณ์ความรู้สึกอันดี รวมกับการสอนวิชาการ) กับกลุ่มควบคุม (สอนเน้นวิชาการแบบเดิม)


         ในชั้นเรียน
          ความสัมพันธ์กระตุ้นความใส่ใจ และการมีส่วนร่วมหลากหลายด้าน 
          1. ปฏิสัมพันธ์อันดี อันสืบเนื่องมาจากความสัมพันธ์ นำไปสู่การสั่งสอนแนะนำ การแก้ไข การเป็นตัวอย่าง และการสนับสนุนผู้เรียน เกิดเป็นรากฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างครูและผู้เรียน (Hoghes & Kwok, 2006) 
           2. ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างครูกับนักเรียน สร้างความรู้สึกวางใจ และกระตุ้นความอยากมีส่วนร่วมในชั้นเรียน (Baumeister & Leary, 1995) 
            3. ความสัมพันธ์อันดี ส่งเสริมความสำเร็จ ได้ดีกว่า การมีส่วนร่วมมีมากขึ้น (Roorda, Koomen, Spitt, Oort, 2011) 
            4. ช่วยนักเรียนไม่ลาออกกลางคัน

         คำถาม 
             1. ครูที่สานสัมพันธ์อันดีกับนักเรียนได้เขาทำอย่างไร ?
             2. เราจะเชื่อมความสัมพันธ์กับ
นักเรียนได้ อย่างไรบ้าง เพื่อให้เด็ก ๆ มีพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลง
             3. เราจะทำให้นักเรียนวางใจ รู้สึกได้รับความเคารพและเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างไร ? 

        ชุดความคิดสานสัมพันธ์ มิใช่เหมาะที่ครูจะนำไปใช้เฉพาะกลุ่มนักเรียนที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้กับเด็กด้อยโอกาสทุกประเภท แม้กระทั่งเด็กปกติที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความไม่สมบูรณ์ของครอบครัว ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ในอัตราส่วนที่เร็วกว่าการเรียนรู้แบบเดิม ๆ ด้วย...


     






แหล่งข้อมูล: การสนทนากับ Bing 1/3/2567
(1) ผลกระทบโควิด-19 ต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน: มาตรการเยียวยาและฟื้นฟู .... https://think.moveforwardparty.org/
(2) ผลสำรวจระดับชาติล่าสุดชี้ไทยมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มขึ้น การ .... https://www.unicef.org/thailand/th

Eric Jensen. (2563). สอนเปลี่ยนชีวิต 7 ชุดความคิดพลิกห้องเรียนเพื่อเด็กทุกคน [Poor Students, Rich Teaching] (ฐานันดร วงศ์กิตติธร, ลลิตา ผลผลา, ผู้แปล). กรุงเทพฯ: บุ๊คสแคป. (2019). 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...