ต่อจากนี้ผู้กำหนดนโยบายควรทำอะไร (What should policymakers do differently tomorrow ?)
ในวันนี้ อาจไม่มีงานอะไรที่เร่งด่วน มากไปกว่าการดูแลบุตรหลานของเรา ให้เข้าถึงโอกาสแห่งการเรียนรู้
ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อสนับสนุนครูให้มี
นโยบายครูที่มีประสิทธิภาพ เป็นโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับระบบการศึกษาที่เข้มแข็
"ครูควรเป็นศูนย์กลางของความคิ
ในระดับบุคคล ช่วยให้ครูมองเห็นอุปสรรคหลัก ๆ ในการปฏิบัติของพวกเขา และช่วยให้ระบบราชการและผู้
สามารถทำได้ (Doable) และมีแรงจูงใจ (Rewarding) ในการทำงานนั้น
ในระดับระบบ ครูและองค์กรครูเป็นผู้ร่
ชั ดเจนแน่นอน เป็นการทำให้ระบบการเมืองให้การยอมรับและสามารถนำไปปฏิบัตในวงกว้างและยั่งยืนได้เมื่อเวลา
ผ่ านไป
การทำงานกับครูและองค์กรครู เพื่อให้นโยบายได้รับการยอมรับและสร้างความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ เป็ นกระบวนการที่เกิดจากภายในองค์กร (Internalized) ครูจะต้องให้ความสำคัญมากกว่ าที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การใช้นโยบายที่มีหลักฐานเชิ งประจักษ์ (Evidenced-based) เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่ใช่จุดหมายปลายทาง
การพัฒนาการเรียนการสอนจะมี ความเป็นได้ตามนโยบายกำหนด มีแนวทางปฏิบัติดังนี้
ประการแรก สำหรับนโยบายที่จะนำมาใช้ในระดั บบุคคล ต้องทำให้พวกเขามีความชัดเจน เชื่อว่าปฏิบัติได้และมีรางวัลจูงใจในการทำงาน
นโยบายที่มีประสิทธิภาพ จะเอื้ออำนวยให้ครูมีการเปลี่ ยนแปลง โดยบอกได้ถึงอุปสรรคที่พวกเขาต้ องเผชิญ ผู้กำหนดนโยบายควรระบุ การเปลี่ยนแปลงเป้าหมายที่จำเป็ นก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงพิจารณาถึงอุปสรรคที่มี ต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ด้วยคำถาม 3 ข้อดังนี้
1). ครูมีความชัดเจนในเป้าหมายใช่ ไหม
2). ครูสามารถทำได้ใช่ไหม
3). มีรางวัลจูงใจให้ครูหรือไม่
การทำงานกับครูและองค์กรครู เพื่อให้นโยบายได้รับการยอมรับและสร้างความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ เป็
อย่างไรก็ตาม การใช้นโยบายที่มีหลักฐานเชิ
การพัฒนาการเรียนการสอนจะมี
ประการแรก สำหรับนโยบายที่จะนำมาใช้ในระดั
นโยบายที่มีประสิทธิภาพ จะเอื้ออำนวยให้ครูมีการเปลี่
1). ครูมีความชัดเจนในเป้าหมายใช่
2). ครูสามารถทำได้ใช่ไหม
3). มีรางวัลจูงใจให้ครูหรือไม่
ผู้กำหนดนโยบายควรวางกลยุทธ์เพื่
การรับฟังและสร้างความเข้าใจว่า ครูมีประสบการณ์ในการใช้
ประการต่อมา สำหรับนโยบายที่จะทำในวงกว้
ความต้องการเหล่านี้ ต้องได้รับการสนับสนุนจากข้อมู
ผู้กำหนดนโยบายควรมีคำถาม
เหล่ านี้ เพื่อให้สามารถระบุองค์ประกอบที่ อาจมีผลกระทบต่อนโยบายครู ในวงกว้างและยั่งยืน
1). เรามีทรัพยากร เช่น เงิน เทคโนโลยี และความสามารถในการจัดการที่ จะนำไปใช้กับนโยบายในวงกว้ างและยั่งยืน เพียงพอหรือไม่
2). เรามีสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ต่อการนำนโยบายไปปฏิบัติหรือไม่ หรืออีกนัยหนึ่งเราได้สร้างความไว้วางใจ และสร้างแนวร่วมกับผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย เพื่อรับประกันว่า องค์ประกอบที่สำคั ญของนโยบายจะยังคงอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป
3). เรามีข้อมูลและระบบข้อมูลที่ สะดวกต่อการช่วยจัดลำดั บความสำคัญ ปรับปรุงและย้ำเตือนนโยบายหรื อไม่
นอกเหนือจากนี้ การระบุถึงการเปลี่ ยนแปลงและการเอาชนะอุปสรรค ทั้งในระดับบุคคลและระดั บระบบแล้ว เราต้องได้รับการวินิจฉั ยและบรรเทาอุปสรรค อย่างจริงจัง ย้ายความสนใจจาก "สิ่งที่ได้ผล" ไปสู่ "สิ่งที่ได้ผลในวงกว้างและ
1). เรามีทรัพยากร เช่น เงิน เทคโนโลยี และความสามารถในการจัดการที่
2). เรามีสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ต่อการนำนโยบายไปปฏิบัติหรือไม่ หรืออีกนัยหนึ่งเราได้สร้างความไว้วางใจ และสร้างแนวร่วมกับผู้มีส่วนได้
3). เรามีข้อมูลและระบบข้อมูลที่
นอกเหนือจากนี้ การระบุถึงการเปลี่
ยั่ งยืน" เมื่อเวลาผ่านไป
โดยสรุป รายงานนี้ให้เหตุผลว่า การก้าวไปไกลกว่า สิ่งที่ได้ผล (Works) ของนโยบายครู ไปจนถึงการสนับสนุนครูในบริบทต่ าง ๆ เพื่อนำสิ่งที่ได้ผลมาใช้ (การขยายผล) ขณะเดียวกันต้องแน่ใจได้ว่า สามารถนำไปใช้ในวงกว้างและมีความยั่งยื น เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งในที่สุด การออกแบบและใช้นโยบายครู ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ งว่า "ครูมีประสบการณ์อย่างไรกั บนโยบายเหล่านี้ "
และสิ่งที่จำเป็นสำหรับการปรั บขนาดและรักษานโยบายอย่างให้มี ประสิทธิภาพ
โดยสรุป รายงานนี้ให้เหตุผลว่า การก้าวไปไกลกว่า สิ่งที่ได้ผล (Works) ของนโยบายครู ไปจนถึงการสนับสนุนครูในบริบทต่
และสิ่งที่จำเป็นสำหรับการปรั
ในรายงานได้เสนอทฤษฏี เพื่อระบุอุปสรรคต่อการเปลี่ ยนแปลงในระดับบุคคลและการรั กษาเงื่อนไขที่จำเป็น เพื่อขับเคลื่อนและมีการเปลี่ ยนแปลงอย่างยั่งยืนในระดับระบบ เพื่อทำให้นโยบายครูได้ผล (ดี) ต่อทุกๆคน...
References:
The World Bank.(2023). Making Teacher Policy Work.www.worldbank.org. (5 April 2024)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น