ห่างไกลแต่ชิดใกล้ (Far Away but Closely)
เช้าตรู่ 07.05 น.
ผมแต่งตัวเสร็จแล้ว พร้อมออกเดินทางไปประชุม..
ลุกจากที่นั่งยังไม่ได้ก้าวไปไหน เสียงสัญญาณไลน์เตือนว่า มีข้อความส่งเข้ามา..
ผมคลิกดู เป็นข้อความจากห้องประชุมแจ้งข่าวไปยังสมาชิก ถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประชุมจาก
ออนโชด์ (On-site) เป็นออนไลน์ (Online) เหมือนกับจะให้เลือกว่า จะประชุมในสถานที่เดิมตามนัดหมาย หรือจะเลือกประชุมที่บ้านก็ได้..
เพราะในข้อความระบุ Meeting ID และ Pass Code มาพร้อมสรรพ
แถมยังเสนอให้ชมถ่ายทอดสดและดูย้อนหลังได้ทาง YouTube...
ผมใช้วิจารณญาณแล้ว จึงสอบถามไปยังผู้จัดว่า ผมเข้าใจถูกหรือไม่ หากผมจะนั่งประชุมอยู่ที่บ้านเป็น Work from Home โดยไม่ต้องขับรถไปไกล.....
การเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างรวดเร็วแบบกระทันหัน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในสังคมของการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 ที่ไม่มีความแน่นนอน สลับซับซ้อน คลุมเครือ คาดเดาได้ยากและนิยมความเร็วเป็นที่ตั้ง...
ถ้าเราจะดูลำดับการพัฒนาในสังคมอุตสาหกรรมแล้ว ขอรวบรัดข้ามยุคเครื่องจักรไอน้ำ มาที่ศตวรรษที่ 20 (ยุคไฟฟ้า อนาล็อก) ที่ความสามารถของคนใช้เพียงทักษะ 3 R ได้แก่การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) และเลขคณิต (Arithmetic) ไม่เพียงพอต่อยุคสมัยเสียแล้ว
ยิ่งก้าวเข้าสู่ยุค ศตวรรษที่ 21 อันเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 (วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์และการสื่อสาร ICT) ยิ่งจำเป็นต้องพัฒนาทักษะของการสื่อสาร ทักษะความร่วมมือ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และมีความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างยิ่งยวด
ทั้งนี้ เพื่อหล่อหลอมบุคลากร แห่งศตวรรษให้สอดคล้อง กับความสามารถสำคัญ 10 ประการ กล่าวคือ
1. ความสามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อน
2. ความสามารถในการมีวิจารณญาณความสามารถใช้ตรรกะอนุมาณ วิเคราะห์ เปรียบเทียบข้อดีข้อด้อย ของวิธีเข้าถึงปัญหา หรือมุ่งแก้ปัญหา...
3. ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
4. ความสามารถในการบริหารคน
5. ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น.
6. ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถตระหนักรู้ถึงปฏิกิริยาอีกฝ่าย และเข้าใจว่าทำไมเขามีปฏิกิริยาเช่นนั้น.....
7. ความสามารถในการประเมินและตัดสินใจ (ด้วยตัวเองที่สัมพันธ์กับองค์กรแนวนอน)
8. จิตมุ่งบริการ
9. ความสามารถเจรจาต่อรอง...เพื่อลดความแตกต่างทางความคิดและสร้างประโยชน์ร่วมกัน..
10. การคิดวิเคราะห์อย่างยืดหยุ่นคือ ความสามารถใช้หลักการหลากหลายเพื่อจัดลำดับและปรับโครงสร้างทำงานด้วยวิธีต่าง ๆ
จะเห็นว่า ทักษะ 7 ใน 10 เป็นทักษะทางสังคมและทักษะทางปัญญาที่คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ อย่างหลกหลายวิธี....
ระหว่างการเดินทางไปประเมินคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาระยะหลัง ๆ นี้ มีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป โดยสังเกตเห็นได้ทางกายภาพและวิถีชีวิตของครูและนักเรียนในโรงเรียน ขอยกตัวอย่างบางกรณี เช่น ห้องสมุดที่เคยหนาแน่นด้วยนักเรียนและกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กลับเป็นสถานที่เงียบสงัด และดูเหมือนว่าจะไม่พบกับบรรยากาศ "ห้องสมุดมีชีวิต" เหมือนเดิม..
ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อันเป็นยุคดิจิทัล ได้ก้าวหน้าด้วยวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ อย่างมากมายและรวดเร็ว เช่น IoT, Ubiquitious. AI, ที่มีใช้ในชีวิตประจำวัน..
ระหว่างวิทยาการที่เป็นใหญ่..หากใช้ความสามารถหลัก 10 ประการมาวิเคราะห์ จะพบว่า ผู้คนในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ต่างเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้น และต่างใช้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและความคิดสร้างสรรค์แก้ปัญหาที่ซับซ้อน จนดูว่าเป็นสังคมที่ คนเป็นใหญ่....
ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จึง เป็นยุคแห่งการบูรณาการ สหวิทยาการที่หลอมรวมคนกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์กับมนุษย์ศาสตร์ เข้าด้วยกันอย่างสมดุล...
เพียงสร้างบุคลากรผู้มีทักษะ แห่งยุคสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ให้สอดคล้องกับยุคสมัยแห่งการบูรณการองค์ความรู้นี้
เราก็สามารถปรับตัวได้ทันการเปลี่ยนแปลง ตามครรลองของยุคสมัยได้....
ด้วยเหตุนี้ ห้องสมุดแบบปิด ในยุคสมัยก่อนหน้านี้จึงกลายเป็นห้องสมุดแบบเปิด ที่เรียกว่า Open Library "เว็บไซต์เดียว ครบทุกเล่ม (One Webpage for Every Book) คล้งข้อมูลดิจิทัลอาร์ไคฟ์ (Digital Archive) ที่กว้างใหญ่ไพศาล..
ด้วยวิทยาการ ยุคปฏิวัติอุตสาหกร รมครั้งที่ 4 ทำให้มีเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย ทรงประสิทธิภาพ เช่น
IoT, AI, Machine Learning (ML) VR. AR, เครื่องพิมพ์ 3D
ได้ถูกนำมาใช้ในการศึกษา จนกลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว..
IoT + ICT = Ubiquitious (Education Every time, Every where)
AI + ML = เรียนรู้โดยไม่ต้องท่องจำ ค้นหาได้ตลอดเวลา
Big data ส่งเสริมการเรียนรู้สอดคล้องกับความสนใจของบุคคล ช่วยส่งเสริมทักษะความสามารถ เช่น ความยืดหยุ่นทางปัญญา ความคิดเชิงวิจารณ์ ความคิดสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน..
เครื่องพิมพ์ 3 D ช่วยให้การเรียนรู้ ได้เห็นและได้สัมผัสจริง ไม่หยุดอยู่เพียงจินตนาการ.
เทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) กับเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกความจริง เป็นวิทยาการสำคัญของ ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระดับปฏิวัติต่อวิธีการศึกษา...กล่าวคือ
1. เทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) และเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกความจริง (AR)
1.1. ฝึกปฏิบัติในโลกเสมือน ด้วยเทคโนโลยีความจริงเสมือน เป็นรูปแบบใหม่ของการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติ การอยู่กับที่เฉยๆ แต่ท่องโลกได้นั้น ช่วยให้เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยปราศจากข้อจำกัดเรื่องกำหนดเวลาและงบประมาณการเดินทาง..
1.2. การฝึกอบรมด้วยเทคโนโลยีความจริงเสมือนและเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานกับโลกความจริง มีอิทธิพลต่อการฝึกอบรมบุคลากรมากที่สุด
1.3. ห้องเรียนเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกความจริง การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบมัลติมีเดีย 3 มิติ ระบบการจัดการเรียนรู้ (Learning Management System:SMS) ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแวร์เอเบิล (Wearable Technology) และ
Ubiquitious ทำให้ผู้เรียนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ได้ตลอดเวลา
1.4. การเรียนออนไลน์เทคโนโลยีความจริงเสมือน สร้างสิ่งแวดล้อมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมเรียนรู้อย่างคึกคักในโลกออนไลน์
2. ปัญญาประดิษฐ์และจักรกลเรียนรู้
2.1 ระบบปัญญาประดิษฐ์ครูผู้ช่วย การผสมผสานเทคโนโลยีจักรกลเรียนรู้กับปัญญาประดิษฐ์ครูผู้ช่วย จะสนับสนุนการเรียนลงลึก แบบส่วนบุคคลและสร้างผลการเรียนระดับปัจเจก..
2.2 ระบบปัญญาประดิษฐ์ครูผู้ช่วยส่วนตัวประจำบ้าน ด้วยพลังของวิทยาการปัญญาประดิษฐ์ ทำให้เรามีปัญญาประดิษฐ์เป็นครูผู้ช่วย สำหรับใช้ในการศึกษา เป็นอุปกรณ์ศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระบบระบบการจัดการศึกษาของโรงเรียน ภายใต้เครือข่ายแบ่งปันข้อมูลความรู้ เป็นผู้ช่วยส่วนตัว เป็นที่ปรึกษาคอยแนะนำการเรียนรู้อย่างใกล้ชิด.....
โชคดีที่ผู้จัดการประชุม เข้าใจตรงกันกับการใช้วิจารณญาณของผม ทำให้ Work from Home ของผมเป็นไปได้ในระบบราชการ....
Zoom Meeting & YouTube ในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้ผมมีโอกาสเพิ่มศักยภาพในบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบแล้ว ยังทำให้ผมประหยัดเวลา ประหยัดงบประมาณ และมีความปลอดภัยจากท้องถนนที่อัดแน่นไปด้วยยวดยานที่เจริญเติบโตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 อีกด้วย.....
อ้างอิง :
รยู แทโฮ. (2563). ยุคปฏิวัติอุตาสกรรมครั้งที่ 4 เมื่อหุ่นยนต์ครองโลก การศีกษาคือทางรอดทางเดียวของมนุษย์ (LARGE PRINT).[ตรองสิริ ทองคำใส : ผู้แปล]. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ไรอัน โทนี่. (2565). มนุษย์พันธุ์ผสม. The Next Generation. [วิภาวี วงศ์ภูมิวิชชุ์: ผู้แปล]. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดดูเคชั่น.
International Archive. [สืบค้น April 21, 2025]. www.openlibary.org
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น