เดินท่ามกลางแมกไม้ในสวน
ต้นไม้ให้อะไร...
รู้เพียงว่าต้นไม้ให้ออกซิเจนแก่เราแต่แท้จริงแล้วมันยังมีอะไรอีกหรือไม่ ที่เราได้รับจากต้นไม้.....
การเดินออกกำลังกายทุกเช้า ท่ามกลางแมกไม้ในสวนที่สองข้างทางปกคลุมไปด้วยต้นทุเรียน มังคุด และอื่น ๆ..ต้นไม้เหล่านี้ปล่อยอะไรออกมาอีกบ้าง !!
06.00 น. เป็นเวลาที่ผมเริ่มต้นจากจุดสตาร์ท แน่ละ..! เช้าขนาดนั้นยังไม่มีอะไรลงท้อง นอกจากน้ำเปล่า...
เดินท้องว่าง จะมีเรี่ยวแรงหรือ ? หลายคนคงสงสัย..
การเดินท้องว่าง ในระดับความเร็วที่เหมาะสม ก่อนอาหารเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเรายังอยู่ในภาวะอดอาหาร จะช่วยให้เผาผลาญอาหารไขมันได้มากขึ้น เพิ่มการตอบสนองของร่างกายต่ออินซูลิน รวมถึงลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ ดูเหมือนว่า เวลาที่เหมาะจะกินมื้อเช้าคือ หลังจากที่เราเดินเสร็จ...
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาในปัจจุบันเชื่อว่า การออกกำลังกายช่วยควบคุมความอยากอาหารของเราได้ สอดคล้องกับงานวิจัยในปี 2019 และปี 2020 ที่พบว่า เมื่อเวลาผ่านไปหกสัปดาห์ ผู้ออกกำลังกายก่อนอาหารเช้า สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินได้ดีขึ้น นักวิจัยชี้แนะว่า การออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนอาหารเช้า อาจถึงขั้นช่วยลดการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมากมายที่คนเป็นกันในปัจจุบัน ตั้งแต่โรคอัลไซเมอร์ไปจนถึงโรคมะเร็ง...
นักวิจัยอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการออกกำลังกายก่อนอาหารเช้า เป็นการเปลี่ยนแปลง "เชิงบวก ที่ล้ำลึก"
สองข้างทางเดินที่ผมใช้ออกกำลังกายเป็นต้นไม้ในสวนที่ไม่อาจรู้ได้ว่า ปล่อยแก๊สอะไรออกมาให้เราบ้าง แต่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิสต์แองเกลียศึกษาข้อมูลจากรายงาน 140 ฉบับ ซึ่งทดสอบคนจำนวนกว่า 290 ล้านคนใน 20 ประเทศ พบว่า การใช้เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างหลากหลายและมีนัยยะสำคัญ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ความดันโลหิตสูงและความเครียดด้วย .
ทำไมต้นไม้ถึงมีผลกระทบต่อเราในเชิงสรีรวิทยาและจิตวิทยาได้มากเช่นนี้...
นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่ง เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า เป็นเพราะสารเทอร์พีน (terpene) ซึ่งเป็นไฟทอนไซด์ * ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติชั้นยอด สารนี้พบได้ในส่วนของใบ ก้าน ราก และลำต้นของพืช...
แทบไม่น่าเชื่อว่า ในบางวันที่มีฝนพรำ หากไม่มีพายุ ฝนฟ้าคะนองจนเกินไป การเดินฝ่าสายฝนก็เป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกที่ดี..
เมื่อฝนตก ความชื้นที่เพิ่มขึ้นบวกกับเม็ดฝนที่กระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้สารประกอบบางตัว ถูกปล่อยออกมาและผสมผสานกันอยู่ในอากาศที่เราหายใจ การสูดสารเหล่านี้เข้าไปนั้น ส่งผลลึกซึ้งต่อความรู้สึกอยู่ดีมีสุขของเรา
ที่สำคัญคือ ฝนช่วยชะล้างมลภาวะที่ตกค้างอยู่ออกไป อากาศจะสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นเสมอ ทั้งในระหว่างฝนตก และทันทีหลังฝนหยุดตก เมื่อฝนตกลงมาผ่านชั้นบรรยากาศ ฝนแต่ละหยด จะจับอนุภาคของมลพิษนับร้อย รวมทั้งเขม่า และ PM 2 5 (ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคไม่เกิน 2.5 ไมโครอน) ทำให้อากาศสดขื่นและสะอาดบริสุทธิ์
ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยชิ้นหนึ่งยังเผยว่า เราเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น ขณะกำลังออกกำลังกายท่ามกลางสายฝน โดยนักวิจัยตรวจเลือด และลมหายใจออก ของผู้ร่วมวิจัย แล้วสรุปว่า "ทั้งปริมาตรลมหายใจเข้าออกในหนึ่งนาที อัตราการใช้ออกซิเจน และระดับกรดแล็กติกในเลือดต่างเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะอยู่ท่ามกลางสายฝน" เพราะเมื่ออากาศหนาวและเปียกแฉะ ร่างกายเราต้องทำงานหนักขึ้นและเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น
วันใดล่ะที่เราจัดว่า เป็นวันที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินที่สุด อาจเป็นวันที่เริ่มต้นด้วยด้วยท้องที่ว่างโหว เดินผ่านแมกไม้ไปสักพัก มีฝนพรำลงมาด้วย ผ่านไป 60 นาที ให้ได้ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร
ความลงตัวเช่นนี้ งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้ชายที่มีน้ำหนักเกิน และเดินวันละ 60 นาที ก่อนอาหารเข้า จะเผาผลาญไขมันได้มากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายหลังอาหารเช้า ถึงสองเท่า
ผมเดินผ่านต้นไม้ในสวนมาแล้วกว่า 60 นาที ยามเช้า 7 โมงกว่า ๆ เช่นนี้ จะมองเห็นแสงแดดอ่อน ๆ เล็ดลอดช่องว่างระหว่างพุ่มใบส่องลงมาทาบทาพื้นดิน แสงเป็นตัวจับเวลาหลักของทุกเซลล์ในร่างกายเรา และถ้าเราได้รับแสงภายในหนึ่งชั่วโมงแรกหลังจากตื่นนอน แต่ละเซลล์จะตั้งเวลาตัวเองตามนั้น
งานวิจัยจำนวนมากชี้ให้เห็นว่า วิธีที่เราใช้ชีวิตในช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน อาจส่งเสริมหรือทำลายโอกาสในการนอนหลับสบายตลอดคืนได้ แสงยามเช้า จะบอกให้เซลล์ปราสาทด้านหลังดวงตารู้ว่า ได้เวลาเริ่มต้นวันแล้ว...
หน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือของผม ที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับระยะทาง จำนวนก้าวและแคลอรี่ไว้ ได้ระบุว่า การเผาผลาญพลังงานหมดไปแล้วเทียบเท่าน่องไก่ประมาณหนึ่งน่อง ในขณะที่ท้องยังไม่ได้รับอาหารใด ๆ มาก่อนเลยตั้งแต่ตื่นนอน....
โคลิน แจ็กสัน (Colin Jackson) ซึ่งเป็นนักกีฬาผู้ทำลายสถิติและโค้ชกีฬา ยังเริ่มต้นทุกเช้าด้วยการเดินเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร ภายใน 50 นาที ทั้งที่ยังท้องว่าง เขาทำมาก่อนแล้ว..
ถ้าเป็นไปได้ควรหมั่นออกไปเดินป่าทุกสัปดาห์ เพราะจากการวิเคราะห์อภิมาณที่ตีพิมพ์ใน American Journal of Lifestyle Medicine ระบุว่า ประโยชน์ที่ได้จากการใช้เวลาอยู่ในป่าจะคงอยู่นานหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น...
การเดินท่ามกลางแมกไม้ในสวน จึงเป็นเรื่องของธรรมชาติที่เราปฏิบัติโดยสัญชาตญาณ ต่อเนื่องสม่ำเสมอ....
อ้างอิง:
แอนนาเบล แอ็บบ์ส. (2568). 52 ways to walk. อัศจรรย์แห่งการเดิน. [ผู้แปล : รสลินน์ ทวีกิตติกุล]. กรุงเทพฯ: บุ๊คสเคป.
หมายเหตุ
*ไฟทอนไซด์ (Phytoncide) คือ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds - VOCs) ที่พืช โดยเฉพาะไม้ยืนต้น ปล่อยออกมาในอากาศเพื่อป้องกันตัวเองจากแมลง เชื้อรา และแบคทีเรียต่างๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น