"วัฒนธรรมคือซอฟต์แวร์ของสมอง" Ep.1
ลองนึกภาพสมองของเราเป็นเหมือน "ฮาร์ดแวร์" (Hardware) ที่มีศักยภาพและโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสำหรับการทำงาน เช่น การรับรู้ การคิด การเรียนรู้ และการเก็บข้อมูล แต่ฮาร์ดแวร์นี้จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหากไม่มี "ซอฟต์แวร์" (Software) ที่บอกให้มันรู้ว่าจะประมวลผลข้อมูลอย่างไร
วัฒนธรรมในฐานะ "ซอฟต์แวร์":
* โปรแกรมการตีความข้อมูล: วัฒนธรรมทำหน้าที่เป็นชุดของโปรแกรมหรืออัลกอริทึมที่สมองใช้ในการตีความข้อมูลที่ได้รับจากโลกภายนอก ตัวอย่างเช่น คนในวัฒนธรรมหนึ่งอาจตีความการแสดงออกทางสีหน้าหรือภาษากายแบบหนึ่งว่าหมายถึงความเคารพ ในขณะที่อีกวัฒนธรรมหนึ่งอาจตีความแตกต่างออกไป นี่คือซอฟต์แวร์ทางวัฒนธรรมที่บอกสมองว่า "ข้อมูลนี้มีความหมายอย่างไร"
* ชุดคำสั่งสำหรับการเรียนรู้: วัฒนธรรมกำหนด "ชุดคำสั่ง" ที่เราใช้ในการเรียนรู้และแก้ปัญหา ตั้งแต่เล็กจนโต เราเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมของเราว่าควรให้ความสำคัญกับข้อมูลประเภทใด ควรเรียนรู้ด้วยวิธีใด (เช่น การสังเกต การเลียนแบบ การปฏิบัติ การเล่าเรื่อง) และควรจัดระเบียบความคิดอย่างไร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของซอฟต์แวร์ทางวัฒนธรรมที่สมองนำมาใช้
* เลนส์ในการมองโลก: วัฒนธรรมเป็นเสมือนเลนส์ที่สมองใช้ในการมองโลกและสร้างความหมายให้กับประสบการณ์ต่างๆ เลนส์นี้จะกรองข้อมูลบางส่วน เน้นข้อมูลบางส่วน และเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับความรู้เดิมและคุณค่าทางวัฒนธรรม ทำให้แต่ละคนมีมุมมองและประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป แม้จะเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน
* ระบบปฏิบัติการภายใน: Hammond ชี้ให้เห็นว่าวัฒนธรรมไม่ใช่แค่ส่วนเสริม แต่เป็น ระบบปฏิบัติการภายใน ที่กำหนดว่าสมองของเราจะคิด ประมวลผล และตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร มันฝังลึกอยู่ในวิธีที่เราสร้างความสัมพันธ์ เข้าใจอารมณ์ ตัดสินใจ และสร้างความรู้ความเข้าใจ
ความสำคัญต่อการสอน:
เมื่อครูเข้าใจว่าวัฒนธรรมคือ "ซอฟต์แวร์" ของสมอง ครูจะมองเห็นว่า:
* นักเรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้: สมองของนักเรียนทุกคนมี "ฮาร์ดแวร์" ที่พร้อม แต่ "ซอฟต์แวร์" ทางวัฒนธรรมที่ติดตั้งมาอาจแตกต่างกัน ครูจึงต้องทำความเข้าใจซอฟต์แวร์นี้ เพื่อออกแบบการสอนที่สามารถเชื่อมโยงกับสิ่งที่นักเรียนคุ้นเคยและใช้เป็นจุดแข็งในการเรียนรู้
* ความรู้เดิมทางวัฒนธรรมคือจุดเริ่มต้น: การสอนที่ตอบสนองต่อวัฒนธรรมคือการใช้ "ซอฟต์แวร์" ที่นักเรียนมีอยู่แล้ว (ความรู้ ประสบการณ์ รูปแบบการเรียนรู้ทางวัฒนธรรม) เป็นฐานในการติดตั้ง "ซอฟต์แวร์" ใหม่ๆ (ความรู้ทางวิชาการ ทักษะการคิดขั้นสูง)
* ลดภาระทางปัญญา (Cognitive Load): หากครูไม่เข้าใจซอฟต์แวร์ทางวัฒนธรรมของนักเรียน การสอนอาจกลายเป็นเรื่องที่ "ผิดโปรแกรม" ทำให้สมองของนักเรียนต้องทำงานหนักขึ้นในการปรับตัวและทำความเข้าใจรูปแบบที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งอาจนำไปสู่ความสับสนและความท้อแท้ได้
ดังนั้น การที่ Zaretta Hammond ใช้คำว่า "วัฒนธรรมคือซอฟต์แวร์ของสมอง" เป็นการเปรียบเทียบที่ทรงพลังเพื่อเน้นย้ำว่าวัฒนธรรมเป็นโครงสร้างที่มองไม่เห็น แต่มีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อการทำงานของสมอง และการที่ครูเข้าใจในจุดนี้จะช่วยให้สามารถออกแบบการสอนที่สอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น