แนะนำหนังสือ Culturally Responsive Teaching and The Brain : บทนำ
หนังสือ "Culturally Responsive Teaching and The Brain" ของ Zaretta Hammond นำเสนอสาระสำคัญเกี่ยวกับการสอนที่ตอบสนองต่อวัฒนธรรมโดยใช้หลักการทางประสาทวิทยา (Neuroscience) เพื่อช่วยให้นักเรียนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภาษาประสบความสำเร็จทางการเรียนรู้ โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:
* วัฒนธรรมคือ "ซอฟต์แวร์" ของสมอง: Hammond เปรียบเทียบวัฒนธรรมเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สมองตีความและจัดระเบียบข้อมูล วัฒนธรรมไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องผิวเผิน (เช่น อาหาร ดนตรี) แต่เป็นรากฐานที่ลึกซึ้งที่หล่อหลอมวิธีคิด การเรียนรู้ และการทำความเข้าใจโลกของแต่ละคน การเข้าใจระดับวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง (Deep Culture) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับครู
* การเรียนรู้สัมพันธ์กับสมองและวัฒนธรรม: หนังสือเล่มนี้เชื่อมโยงงานวิจัยทางประสาทวิทยาเข้ากับการสอนที่ตอบสนองต่อวัฒนธรรม โดยเน้นว่าสมองประมวลผลข้อมูลแตกต่างกันไปตามพื้นฐานทางวัฒนธรรมและประสบการณ์ การสอนที่ตอบสนองต่อวัฒนธรรมจึงเป็นการใช้ความรู้ทางวัฒนธรรมของนักเรียนเป็นนั่งร้าน (scaffold) เพื่อเชื่อมโยงสิ่งที่นักเรียนรู้เข้ากับแนวคิดและเนื้อหาใหม่ๆ ช่วยให้สมองสร้างเครือข่ายเส้นประสาทใหม่ (neuroplasticity) และพัฒนาความสามารถทางปัญญา (intellective capacity)
* สร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจ (Trust-Generative Relationships): Hammond เน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจระหว่างครูกับนักเรียนเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนจากกลุ่มที่ถูกชายขอบ การสร้างความไว้วางใจช่วยลดความรู้สึกถูกคุกคามทางสังคม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองในการประมวลผลข้อมูล (limbic system)
* ครูในฐานะ "Warm Demander": ครูควรเป็น "Warm Demander" คือเป็นผู้ที่สร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและเข้าใจนักเรียน พร้อมกับตั้งความคาดหวังที่สูงและสนับสนุนให้นักเรียนก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง สิ่งนี้ช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงและพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง
* การพัฒนาความสามารถในการประมวลผลข้อมูล (Information Processing Skills): เป้าหมายของการสอนที่ตอบสนองต่อวัฒนธรรมไม่ใช่แค่การสร้างแรงจูงใจ แต่เป็นการช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการประมวลผลข้อมูลและการใช้สมองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด Hammond ชี้ให้เห็นว่าครูสามารถใช้ "เครื่องมือทางวัฒนธรรม" ที่นักเรียนนำติดตัวมา เช่น การเล่าเรื่อง ดนตรี การเคลื่อนไหว หรือการทำซ้ำ เพื่อช่วยให้นักเรียนรับและจัดเก็บข้อมูลใหม่ๆ
* การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Awareness) และอคติโดยไม่รู้ตัว (Implicit Bias): ครูจำเป็นต้องพัฒนาความตระหนักรู้เกี่ยวกับอคติโดยไม่รู้ตัวของตนเอง และทำความเข้าใจว่าเลนส์ทางวัฒนธรรมของตนเองส่งผลต่อการตีความและประเมินพฤติกรรมของนักเรียนอย่างไร เพื่อป้องกันการตั้งความคาดหวังที่ต่ำหรือการประเมินค่าความรู้และทักษะที่นักเรียนนำมาโรงเรียนต่ำเกินไป
กล่าวโดยสรุป หนังสือ "Culturally Responsive Teaching and The Brain" ให้ความสำคัญกับการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างวัฒนธรรมที่บ้านกับวัฒนธรรมในโรงเรียน โดยใช้หลักการทางประสาทวิทยามาอธิบายว่าการเข้าใจและใช้ประโยชน์จากพื้นฐานทางวัฒนธรรมของนักเรียนจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาทางปัญญาของพวกเขาได้อย่างไร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น