แนะนำหนังสือ Responsibility-Centered Discipline (RCD) Ep. 3 : "6 ทางออก (Six Exits)" ที่นักเรียนมักใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในการ กระทำของตนเอง"



          Larry Thompson ผู้สร้างแนวคิด Responsibility-Centered Discipline (RCD) ได้ระบุ "6 ทางออก (Six Exits)" ที่นักเรียนมักใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในการกระทำของตนเอง โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการเข้าใจ "ทางออก" เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักการศึกษาในการช่วยให้นักเรียนกลับมาสู่เส้นทางของความรับผิดชอบได้สำเร็จ

รายละเอียดของ "6 ทางออก" พร้อมแนวทางการรับมือ:

1. Benefit (ผลประโยชน์ที่ได้รับ/ไม่ได้รับ)
      สิ่งที่นักเรียนทำ: นักเรียนหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเพราะไม่เห็นประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หรือมองว่าการรับผิดชอบไม่ได้ให้ผลตอบแทนอะไร หรือมองว่าการกระทำที่ไม่ถูกต้องนั้นให้ "ประโยชน์" กับตนเองมากกว่า (เช่น ได้รับความสนใจ, ได้หลีกเลี่ยงงานที่ยาก)

       คำพูดที่อาจได้ยิน: "ผมไม่เห็นว่ามันจะช่วยอะไรเลย" "ทำไปก็ไม่มีประโยชน์" "คนอื่นก็ทำไมไม่เห็นเป็นไร"

แนวทางการรับมือ:
       เชื่อมโยงพฤติกรรมกับผลประโยชน์ระยะยาว: ช่วยให้นักเรียนเห็นว่าการรับผิดชอบและการทำสิ่งที่ถูกต้องจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวอย่างไร (เช่น ได้รับความไว้วางใจ, มีอิสระมากขึ้น, ได้เรียนรู้และเติบโต)

       เน้นคุณค่าของความรับผิดชอบ: อธิบายให้เข้าใจว่าความรับผิดชอบเป็นทักษะสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่แค่ในโรงเรียน

       ชี้ให้เห็น "ประโยชน์" ที่แท้จริง: หากนักเรียนได้ประโยชน์จากการกระทำที่ไม่เหมาะสม ให้ช่วยเขาเห็นว่าประโยชน์นั้นเป็นเพียงชั่วคราวและมีผลเสียตามมา

2. Emotional Control (การควบคุมอารมณ์)

         สิ่งที่นักเรียนทำ: นักเรียนปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบงำ ทำให้ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการกระทำได้ (เช่น โมโหแล้วทำลายข้าวของ, เสียใจแล้วไม่ยอมทำอะไรเลย) หรือใช้อารมณ์เป็นเครื่องมือในการควบคุมสถานการณ์ (เช่น ร้องไห้เพื่อให้ได้รับการยกเว้น)

         คำพูดที่อาจได้ยิน: "ผมโกรธมากเลยทำไป" "หนูเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก" "ครูทำให้หนูรู้สึกแย่"

แนวทางการรับมือ:
        รักษาสติและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง: ครูต้องเป็นแบบอย่างในการควบคุมอารมณ์ ไม่ตอบโต้ด้วยอารมณ์ หรือแสดงความหงุดหงิด

       สอนทักษะการจัดการอารมณ์: ช่วยให้นักเรียนระบุอารมณ์ของตนเอง และสอนกลยุทธ์ในการจัดการกับอารมณ์เหล่านั้นอย่างสร้างสรรค์ (เช่น การหายใจเข้าลึกๆ, การนับเลข)

       ให้เวลา "สงบสติอารมณ์": อาจให้เวลาหรือพื้นที่ให้นักเรียนได้สงบสติอารมณ์ก่อนที่จะเริ่มบทสนทนา "Give 'em Five"

       ไม่ตอบสนองต่อ "การใช้" อารมณ์: อย่าตกหลุมพรางการที่นักเรียนใช้อารมณ์มาบงการสถานการณ์

3. Clear Expectations (ความคาดหวังที่ชัดเจน)

        สิ่งที่นักเรียนทำ: นักเรียนอ้างว่าไม่รู้กฎเกณฑ์, ไม่เข้าใจความคาดหวัง, หรือบอกว่าไม่เคยมีใครบอกพวกเขามาก่อน

        คำพูดที่อาจได้ยิน: "ผมไม่รู้ว่าต้องทำแบบนั้น" "ไม่มีใครบอกหนูเลย" "ครูไม่เคยบอกเรื่องนี้"

แนวทางการรับมือ:
       กำหนดและสื่อสารความคาดหวังให้ชัดเจน: กฎและข้อตกลงในห้องเรียนหรือโรงเรียนต้องชัดเจน เข้าใจง่าย และสื่อสารให้นักเรียนรับทราบอย่างทั่วถึง

       ทบทวนและย้ำเตือนอย่างสม่ำเสมอ: อย่าคิดว่านักเรียนจะจำได้เสมอไป ควรมีการทบทวนความคาดหวังเป็นระยะ

       ตรวจสอบความเข้าใจ: ถามคำถามเพื่อยืนยันว่านักเรียนเข้าใจความคาดหวังอย่างแท้จริง เช่น "คุณเข้าใจไหมว่าเราคาดหวังอะไรในสถานการณ์นี้?

       มีข้อตกลงที่เห็นชอบร่วมกัน: หากเป็นไปได้ ให้ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดความคาดหวังเพื่อสร้างความเป็นเจ้าของ

4. Consistency (ความสม่ำเสมอ)
         สิ่งที่นักเรียนทำ: นักเรียนอ้างว่ามีการเลือกปฏิบัติ, คนอื่นทำแล้วไม่เห็นโดน, หรือกฎไม่ได้ถูกบังคับใช้อย่างสม่ำเสมอ

        คำพูดที่อาจได้ยิน: "ทำไมผมคนเดียวที่โดน?" "คนนั้นก็ทำเหมือนกัน ทำไมครูไม่ว่า?" "บางทีก็ไม่เห็นเป็นไร"

 แนวทางการรับมือ:
        บังคับใช้กฎอย่างสม่ำเสมอและยุติธรรม: นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรับมือกับทางออกนี้ นักเรียนต้องเห็นว่ากฎใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะสนิทกับใครหรือเป็นคนแบบไหน

       หลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติ: ไม่แสดงความลำเอียง ไม่ว่าจะเป็นในทางบวกหรือลบ

       อธิบายอย่างเป็นกลาง: หากมีกรณีที่แตกต่างกันจริง ๆ (เช่น นักเรียนมีข้อจำกัดพิเศษ) ควรชี้แจงโดยไม่ลงรายละเอียดส่วนตัวที่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

5. Leading the Moment (การนำทางในสถานการณ์)

        สิ่งที่นักเรียนทำ: นักเรียนพยายาม "ล่อหลอก" ให้ครูหรือบุคลากรทางการศึกษาใช้วิธีการควบคุมแบบเดิมๆ (เช่น การบ่น, การเทศนา, การขู่) หรือพยายามเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการโต้เถียง, กล่าวหา หรือการแสดงบทบาทเป็นเหยื่อ เพื่อให้ครูหลุดโฟกัสจากประเด็นความรับผิดชอบ

       คำพูดที่อาจได้ยิน: "ครูไม่ยุติธรรม!" "ครูเกลียดหนู!" "มันไม่ใช่ความผิดของผม!" (แล้วตามด้วยการบ่นเรื่องอื่น ๆ)

แนวทางการรับมือ:
       ยึดมั่นในกระบวนการ "Give 'em Five": ไม่หลุดจากขั้นตอนและไม่โต้เถียงกับนักเรียน

       นำนักเรียนกลับเข้าสู่บทสนทนา: หากนักเรียนพยายามเบี่ยงเบน ให้พูดอย่างสุภาพแต่หนักแน่นว่า "เรากำลังพูดเรื่องนี้อยู่..." แล้วนำกลับมาที่ขั้นตอนที่เหมาะสม 

       ไม่ตกเป็นเหยื่อการ "ล่อหลอก": ไม่ตอบสนองต่อการกล่าวหาหรือการแสดงบทบาทเป็นเหยื่อ
รักษาบทบาทของโค้ช/ผู้แนะนำ: ไม่ใช่ผู้พิพากษาหรือตำรวจ

6. Response-Ability (ความสามารถในการตอบสนอง/รับผิดชอบ) 

       สิ่งที่นักเรียนทำ: นักเรียนอ้างว่าไม่สามารถทำตามสิ่งที่คาดหวังได้, ไม่มีทางเลือก, หรือไม่มีความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์นั้นๆ (เช่น "ผมทำไม่ได้", "ผมไม่รู้จะทำยังไง", "มันเป็นไปไม่ได้")

       คำพูดที่อาจได้ยิน: "ผมทำไม่เป็น" "มันยากเกินไป" "ผมไม่มีทางเลือก"

แนวทางการรับมือ:
       เน้นย้ำความสามารถของนักเรียน: แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเรียนว่าพวกเขามีความสามารถในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหา

       เสนอการสนับสนุน (แต่ไม่ทำให้แทน): เช่น "ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ผมจะช่วยคิดได้" หรือ "มีอะไรที่ผมช่วยสนับสนุนให้คุณทำสิ่งนี้ได้ไหม?"

        แบ่งงานออกเป็นส่วนเล็กๆ: หากงานหรือปัญหาดูใหญ่เกินไปสำหรับนักเรียน ให้ช่วยแบ่งเป็นขั้นตอนเล็กๆ ที่จัดการได้

        กระตุ้นการคิดหาทางออกด้วยตนเอง: "คุณคิดว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง?" "อะไรคือขั้นตอนแรกที่คุณสามารถทำได้?"

        การเข้าใจ "6 ทางออก" เหล่านี้ ช่วยให้บุคลากรทางการศึกษาสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของนักเรียน และตอบสนองได้อย่างมีกลยุทธ์ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะความรับผิดชอบของนักเรียนอย่างแท้จริง แทนที่จะติดอยู่ในวงจรของการโต้เถียงหรือการลงโทษที่ไม่ยั่งยืน









อ้างอิง
Cr. ภาพประกอบ การอบรมพัฒนาทักษะชีวิตเด็กและวัยรุ่นในโรงเรียน เขตสุขภาพที่ 9 ระหว่างวันที่ 22-23 พฤษภาคม 2568 ณ โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม ตำบลบ้านบัว อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...