ABL กับ Six Essentials


         ในบริบทของ Asset-Based Languages and Literacy (ABL) การนำ "Six Essentials" (ซึ่งมักจะอ้างอิงถึง Six Learning Essentials ของ Tonya Ward Singer หรือแนวคิดที่คล้ายกันในบริบทของการสนับสนุนผู้เรียนหลายภาษา) มาประยุกต์ใช้คือการสร้างกรอบแนวคิดและแนวทางปฏิบัติที่เน้นการใช้จุดแข็งทางภาษาและวัฒนธรรมของผู้เรียนเป็นตัวขับเคลื่อนการเรียนรู้หลัก

          หัวใจสำคัญคือการ เปลี่ยนมุมมองจาก "สิ่งที่นักเรียนขาด" (deficit-based) ไปสู่ "สิ่งที่นักเรียนมี" (asset-based) ในทุกองค์ประกอบของ Six Essentials

           ลองมาดูการประยุกต์ใช้ทีละข้อ พร้อมตัวอย่างในบริบทของ ABL:
Six Essentials ในบริบทของ Asset-Based Languages and Literacy
1. Learning Environment (สภาพแวดล้อมการเรียนรู้)
            หลักการ ABL: สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ให้การยอมรับ และเฉลิมฉลองความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรมของนักเรียนทุกคน ไม่ว่าภาษาแม่ของพวกเขาจะเป็นอะไรก็ตาม ห้องเรียนควรสะท้อนตัวตนและประสบการณ์ของนักเรียน.
           การประยุกต์ใช้:
                 กายภาพ: จัดแสดงแผนที่โลกที่ระบุแหล่งที่มาของภาษาต่างๆ ที่นักเรียนพูด, มีป้ายหรือคำทักทายหลายภาษาในห้องเรียน, จัดมุมหนังสือที่มีวรรณกรรมหรือสื่อการเรียนรู้ที่เป็นภาษาแม่ของนักเรียน หรือสะท้อนวัฒนธรรมของพวกเขา.
                 อารมณ์/สังคม: ครูและนักเรียนทุกคนใช้ "ภาษาที่เน้นสินทรัพย์" (asset-based language) ในการพูดถึงความสามารถทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น แทนที่จะพูดว่า "นักเรียนคนนี้ยังพูดภาษาไทยได้ไม่ดี" ให้พูดว่า "นักเรียนคนนี้มีความเชี่ยวชาญในภาษาเขมร และกำลังพัฒนาภาษาไทย". 
               ครูสร้างบรรยากาศที่นักเรียนกล้าที่จะใช้ภาษาแม่ในการทำความเข้าใจ หรือถามคำถาม และสามารถ translanguage (การใช้ภาษาหลายภาษาผสมผสานกันเพื่อการสื่อสารและความเข้าใจ) ได้อย่างเป็นธรรมชาติ.

2. Expectancy Preparation (การเตรียมความพร้อมและความคาดหวัง)
            หลักการ ABL: ตั้งความคาดหวังที่สูงสำหรับนักเรียนทุกคน โดยเชื่อมั่นในศักยภาพทางสติปัญญาและภาษาของพวกเขา พร้อมทั้งสื่อสารให้เห็นว่าความรู้และประสบการณ์เดิมของนักเรียนมีคุณค่าและเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการเรียนรู้ใหม่.
           การประยุกต์ใช้:
                 การสื่อสาร: ครูสื่อสารกับนักเรียนและผู้ปกครองอย่างชัดเจนว่า ภาษาแม่ของนักเรียนเป็นจุดแข็ง ไม่ใช่อุปสรรค. อธิบายว่าการที่นักเรียนมีความสามารถในภาษาหนึ่งจะช่วยให้การเรียนรู้ภาษาและเนื้อหาใหม่ๆ เป็นไปได้ดียิ่งขึ้น.
                การเชื่อมโยง: เมื่อเริ่มบทเรียนใหม่ ครูอาจเริ่มต้นด้วยการถามว่า "มีใครเคยได้ยินเรื่องนี้ในภาษาอื่น หรือในวัฒนธรรมของตัวเองบ้างไหม?" หรือ "ในภาษาของเธอ/วัฒนธรรมของเธอ สิ่งนี้เรียกว่าอะไร?" เพื่อกระตุ้นความสนใจและเชื่อมโยงกับความรู้เดิม.

3. Global Overview (ภาพรวมทั้งหมด)
           หลักการ ABL: การให้ภาพรวมของบทเรียนหรือหน่วยการเรียนรู้ที่ชัดเจนและครอบคลุม โดยคำนึงถึงว่านักเรียนแต่ละคนอาจมีพื้นฐานความรู้และภาษาที่แตกต่างกัน. ใช้กลยุทธ์ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงแนวคิดหลักเข้ากับความรู้เดิมและภูมิหลังทางวัฒนธรรมของตนเองได้.
            การประยุกต์ใช้:
                  แผนผังความคิด/แผนภาพ: ใช้แผนผังความคิด (mind maps), กราฟิกออร์แกไนเซอร์ (graphic organizers) หรือภาพประกอบที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอภาพรวมของเนื้อหาให้ชัดเจน โดยอาจมีคำศัพท์หลักเป็นภาษาแม่ควบคู่กับภาษาไทย เพื่อช่วยในการทำความเข้าใจ.
                  การเล่าเรื่อง/บริบท: อธิบายเนื้อหาใหม่โดยเชื่อมโยงกับบริบทที่นักเรียนคุ้นเคย หรือใช้เรื่องเล่าจากวัฒนธรรมต่างๆ ที่มีแนวคิดคล้ายกันเพื่อเป็นจุดเริ่มต้น.

4. Dynamic Engagement (การมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น)
            หลักการ ABL: ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน โดยใช้จุดแข็งทางภาษาและวัฒนธรรมของพวกเขา.
           การประยุกต์ใช้:
                 กิจกรรมกลุ่ม: จัดกลุ่มนักเรียนที่มาจากภูมิหลังทางภาษาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้จากกันและกัน และอาจอนุญาตให้ใช้ภาษาแม่ในการระดมสมองหรืออภิปรายเบื้องต้นได้.
                การใช้ศิลปะ/ดนตรี/การแสดง: ให้นักเรียนแสดงความเข้าใจผ่านรูปแบบที่ไม่ใช่แค่ภาษาเขียน เช่น การวาดภาพ การแสดงบทบาทสมมติ การร้องเพลง หรือการเต้นรำที่สะท้อนวัฒนธรรมของตนเอง.
               การนำเสนอแบบหลากภาษา: ให้นักเรียนนำเสนอผลงานโดยใช้ภาษาแม่ควบคู่กับภาษาไทย หรือใช้ภาษาที่หลากหลายในโครงการที่พวกเขาสนใจ.

5. Congruent Activities (กิจกรรมที่สอดคล้อง)
            หลักการ ABL: กิจกรรมที่ออกแบบมาอย่างสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ โดยใช้ความรู้ ประสบการณ์ และทักษะทางภาษาของนักเรียนเป็นสะพานเชื่อมสู่ความรู้ใหม่.
           การประยุกต์ใช้:
                 โครงการศึกษาชุมชน: ให้นักเรียนทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับชุมชนของตนเอง เช่น การสำรวจประเพณีท้องถิ่น การสัมภาษณ์ปราชญ์ชาวบ้าน หรือการศึกษาอาชีพในชุมชน โดยใช้ภาษาท้องถิ่นหรือภาษาแม่ในการเก็บข้อมูล.
                  บทบาทสมมติทางวัฒนธรรม: สร้างสถานการณ์จำลองที่ให้นักเรียนได้ใช้ความรู้ทางวัฒนธรรมและภาษาของตนเองในการแก้ปัญหาหรือสื่อสาร.
                 การใช้ "Funds of Knowledge": อย่างที่ได้อธิบายไปแล้ว การนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากครอบครัวและชุมชนมาใช้เป็นเนื้อหาหรือบริบทของกิจกรรมโดยตรง เช่น การนำเรื่องราวการทำนา (ในพื้นที่บุรีรัมย์) มาใช้ในการเรียนวิทยาศาสตร์เรื่องวัฏจักรพืช หรือการนำภูมิปัญญาการทอผ้าไหมมาใช้ในวิชาศิลปะ.

6. Consolidation / Integration (การรวบรวมและบูรณาการ)
            หลักการ ABL: ช่วยให้นักเรียนได้ทบทวน จัดระเบียบ และเชื่อมโยงความรู้ที่ได้เรียนรู้เข้าด้วยกัน โดยใช้ความสามารถทางภาษาและวัฒนธรรมของตนเองในการประมวลผลข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น.
            การประยุกต์ใช้:
                 การเขียนบันทึก/สะท้อนคิด: ให้นักเรียนเขียนบันทึกการเรียนรู้ หรือสะท้อนความคิดเห็นเป็นภาษาแม่หรือภาษาที่พวกเขารู้สึกสบายใจที่สุด ก่อนที่จะนำมาสรุปเป็นภาษาไทย.
                การอภิปรายและการนำเสนอซ้ำ: ให้นักเรียนมีโอกาสอภิปรายหรือนำเสนอสิ่งที่เรียนรู้ซ้ำในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบปากเปล่าและแบบเขียน โดยอาจอนุญาตให้ใช้ภาษาที่หลากหลายในการอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อน.
                การเชื่อมโยงข้ามวิชา/วัฒนธรรม: ครูช่วยให้นักเรียนเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหาที่เรียนในวิชาหนึ่งกับวิชาอื่น หรือกับความรู้และประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของตนเอง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ครอบคลุม.

            การประยุกต์ใช้ Six Essentials ภายใต้กรอบของ Asset-Based Languages and Literacy เป็นการสร้างระบบการเรียนรู้ที่ ไม่เพียงแต่ยอมรับความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังใช้ความหลากหลายนั้นเป็นพลังขับเคลื่อน ให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพและมีความหมายอย่างแท้จริงสำหรับผู้เรียนทุกคน โดยเฉพาะผู้เรียนหลายภาษา.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...