Metformin และการชะลอวัย (Anti-aging): ข้อเท็จจริง vs ความคาดหวังในงานวิจัย TAME




บทนำ

          ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “เมตฟอร์มิน (Metformin)” ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มาอย่างยาวนาน กลับได้รับความสนใจในบริบทของ “การชะลอวัย” (Anti-aging) มากขึ้นเรื่อยๆ งานวิจัยที่โดดเด่นในประเด็นนี้คือโครงการศึกษาที่ชื่อว่า “TAME” (Targeting Aging with Metformin) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะศึกษาและประเมินผลของเมตฟอร์มินในการชะลอการเกิดโรคต่างๆ ที่สัมพันธ์กับความชรา บทความนี้จะกล่าวถึงข้อมูลเบื้องต้นของเมตฟอร์มิน กลไกในการออกฤทธิ์ ประโยชน์ที่พบในงานวิจัยเกี่ยวกับการชะลอวัย และสรุปข้อเท็จจริงเปรียบเทียบกับความคาดหวัง
         Metformin จากดอกไลแล็ก

1. เมตฟอร์มิน (Metformin) คืออะไร?

         เมตฟอร์มินเป็นยากลุ่ม (Biguanides) ที่ใช้เป็นยาในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes Mellitus; T2DM) มายาวนาน เนื่องจากสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดโดย:
         ลดการสร้างกลูโคสจากตับ (Hepatic gluconeogenesis) เพิ่มความไวของเนื้อเยื่อต่ออินซูลิน ช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้ในบางราย
         นอกจากนี้ เมตฟอร์มินยังมีโปรไฟล์ความปลอดภัยที่ค่อนข้างดี และมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก

2. กลไกที่เกี่ยวข้องกับ “การชะลอวัย” (Anti-aging)

          งานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า เมตฟอร์มิน อาจมีฤทธิ์บางประการที่เกี่ยวข้องกับการชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์ (cellular aging) ผ่านกลไก เช่น

          1. การกระตุ้น AMPK (AMP-activated protein kinase)
             เมตฟอร์มินสามารถกระตุ้น AMPK ซึ่งเป็นเอนไซม์หลักที่ทำหน้าที่เป็น “เซ็นเซอร์พลังงาน” ของเซลล์ เมื่อ AMPK ถูกกระตุ้น จะส่งสัญญาณให้เซลล์เพิ่มการใช้งานพลังงานและลดการสังเคราะห์เชื้อเพลิงส่วนเกิน ซึ่งส่งผลดีต่อเมแทบอลิซึมของเซลล์และอาจลดความเครียดในระดับเซลล์ (Cellular stress)

          2. (Chronic low-grade inflammation)
                การอักเสบแบบเรื้อรังที่รุนแรงไม่มากแต่ต่อเนื่อง (“Inflammaging”) เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความชรา เมตฟอร์มินอาจช่วยลดปัจจัยอักเสบต่างๆ ซึ่งอาจลดภาวะเสื่อมที่มักเกิดขึ้นตามอายุ

           3. (Reactive Oxygen Species; ROS)
                 บางงานวิจัยเสนอว่า เมตฟอร์มินสามารถลดการสร้าง ROS ในไมโทคอนเดรีย จึงอาจช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของกระบวนการชรา

             4. ผลต่อไมโทคอนเดรีย (Mitochondrial function)
                 เมตฟอร์มินอาจช่วยควบคุมการทำงานของไมโทคอนเดรียให้คงสภาพอย่างเหมาะสม ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพระยะยาว


3. งานวิจัย TAME (Targeting Aging with Metformin)

           โครงการ TAME เป็นงานวิจัยระดับใหญ่ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาว่า การให้เมตฟอร์มินในผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคเบาหวาน จะสามารถชะลอการเกิดโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับความชรา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง และภาวะสมองเสื่อม ได้หรือไม่

จุดเริ่มต้น : โครงการนี้ดำเนินการโดยทีมนักวิจัยนำโดย Prof. Nir Barzilai จาก Albert Einstein College of Medicine สหรัฐอเมริกา

รูปแบบการศึกษา : เป็นการศึกษาแบบหลายศูนย์ (Multicenter) ซึ่งมีการออกแบบเป็นการสุ่มแบบมีกลุ่มควบคุม (Randomized Controlled Trial; RCT)

จำนวนอาสาสมัคร : ผู้เข้าร่วมศึกษาจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยมีเกณฑ์คัดเลือกเพื่อประเมินการเกิดโรคที่สัมพันธ์กับความชรา

เป้าหมายหลัก : ประเมินว่า เมตฟอร์มินจะสามารถลดอัตราการเกิดโรคเรื้อรังสำคัญที่สัมพันธ์กับอายุได้หรือไม่ และศึกษาผลข้างเคียงหรือความปลอดภัยของการใช้เมตฟอร์มินในกลุ่มนี้

          หากโครงการ TAME ให้ผลลัพธ์ที่ดี อาจนำไปสู่การปรับใช้เมตฟอร์มินในการป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลที่ชัดเจนจากการวิจัยที่ใช้เวลาหลายปี


4. ข้อเท็จจริง vs ความคาดหวัง

          1. ข้อมูลทางระบาดวิทยา พบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับเมตฟอร์มินมีอายุขัยเฉลี่ยยาวขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ไม่ได้ใช้ยา หรือเทียบกับผู้ใช้ยารักษาเบาหวานกลุ่มอื่น อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างหลักคือตัวผู้ป่วยเบาหวาน การใช้ผลนี้สรุปสำหรับคนทั่วไป (ที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน) ยังต้องมีการยืนยันเพิ่มเติม

          2. งานวิจัยในสัตว์ทดลอง การทดลองในหนูพบว่า เมตฟอร์มินสามารถยืดอายุขัยและลดการเกิดเนื้องอกบางชนิดได้ แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องรูปแบบการทดลอง และความแตกต่างทางชีววิทยาระหว่างหนูกับมนุษย์

          3. ความปลอดภัยในการใช้ เมตฟอร์มินแม้จะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการทางเดินอาหาร (ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้) และในบางกรณีที่รุนแรงมาก (แต่พบได้น้อย) อาจเกิดภาวะกรดแลคติก (Lactic acidosis) ได้โดยเฉพาะในผู้ที่มีไตเสื่อม

          4. ข้อสรุปในปัจจุบัน
              “ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด”ว่าเมตฟอร์มินสามารถใช้เพื่อการชะลอวัยอย่างได้ผลจริงในคนทั่วไปหรือไม่
              การใช้เมตฟอร์มินเพื่อป้องกันโรคเรื้อรังในผู้ที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน ยังต้องรอผลการศึกษาที่มีคุณภาพสูง (RCT) เช่น โครงการ TAME

               "การดูแลสุขภาพพื้นฐาน เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมอาหาร พักผ่อนเพียงพอ และจัดการความเครียด ยังคงเป็นแนวทางหลักในการชะลอวัยที่ได้หลักฐานสนับสนุนชัดเจนกว่ายาใดๆ...." 

            5. แนวทางการเฝ้าติดตามและข้อควรระวัง แม้ว่าจะมีกระแสความสนใจ แต่การใช้เมตฟอร์มินเพื่อหวังผลชะลอวัย "ไม่ควรเริ่มต้นเอง" ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม
                 ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น มีภาวะไตเสื่อม ควรใช้อย่างระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยง
                 รอข้อมูลเพิ่มเติมจากงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ออกแบบเพื่อตอบคำถามด้าน “Anti-aging” โดยเฉพาะ

สรุป
                เมตฟอร์มินเป็นยาที่ประสิทธิภาพดีและปลอดภัยสำหรับการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 โดยยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าอาจมีศักยภาพในการชะลอกระบวนการชรา   
               อย่างไรก็ตาม การสรุปว่าสามารถใช้เป็นยา “Anti-aging” ในคนทั่วไปได้หรือไม่นั้น ยังต้องการงานวิจัยแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมขนาดใหญ่และใช้เวลาติดตามผลอีกระยะหนึ่งเช่น งานวิจัย TAME ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขข้อสงสัยนี้ ในระหว่างนี้การดูแลสุขภาพในภาพรวมด้วยวิถีชีวิตที่ดี (Well-balanced lifestyle) ยังคงเป็นหัวใจหลักในการชะลอวัยและการป้องกันโรคเรื้อรัง










เอกสารอ้างอิง

สุขภาพดีไม่มีในขวด. https//www.facebook.com [สืบค้น 4 July 2025]. 

1. Barzilai N, Crandall JP, Kritchevsky SB, Espeland MA. Metformin as a Tool to Target Aging. *Cell Metab.* 2016;23(6):1060-1065. doi:10.1016/j.cmet.2016.05.011
2. Justice JN, Laudanski K, et al. The TAME trial: Targeting Aging with Metformin. *Aging (Albany NY).* 2016;8(3):363-374. doi:10.18632/aging.100951
3. UK Prospective Diabetes Study (UKPDS) Group. Effect of intensive blood-glucose control with metformin on complications in overweight patients with type 2 diabetes. *Lancet.* 1998;352(9131):854-865. doi:10.1016/S0140-6736(98)07037-8
4. Campbell JM, Bellman SM, Stephenson MD, Lisy K. Metformin reduces all-cause mortality and diseases of ageing independent of its effect on diabetes control: a systematic review and meta-analysis. *Ageing Res Rev.* 2017;40:31-44. doi:10.1016/j.arr.2017.08.003
5. Fontana L, Partridge L, Longo VD. Extending healthy life span—from yeast to humans. *Science.* 2010;328(5976):321-326. doi:10.1126/science.1172539
6. Viollet B, Guigas B, Garcia NS, et al. Cellular and molecular mechanisms of metformin: an overview. *Clin Sci (Lond).* 2012;122(6):253-270. doi:10.1042/CS20110386




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...