คู่มือการนิเทศเชิงระบบ: ใช้ Theory of Change เป็นแกนกลาง
โครงร่างเบื้องต้นของ คู่มือการนิเทศเชิงระบบโดยใช้แนวคิด Theory of Change (ToC) ซึ่งสามารถปรับใช้ได้กับบริบทโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเน้นความชัดเจนทางกลยุทธ์ ความเชื่อมโยงของกิจกรรม และการวัดผลที่มีความหมาย ดังนี้
📘 คู่มือการนิเทศเชิงระบบ: ใช้ Theory of Change เป็นแกนกลาง
1. บทนำ
- อธิบายความจำเป็นของการนิเทศเชิงระบบในบริบทโรงเรียนขนาดเล็ก
- แนะนำแนวคิด Theory of Change และเหตุผลที่นำมาใช้ในกระบวนการนิเทศ
2. กรอบแนวคิด Theory of Change
| องค์ประกอบ | คำอธิบาย |
| เป้าหมายระยะยาว | โรงเรียนขนาดเล็กมีคุณภาพการเรียนรู้ที่ดีขึ้น |
| ผลลัพธ์ระยะกลาง | ครูมีทักษะการสอนเชิงรุก, ผู้เรียนมีทักษะศตวรรษที่ 21 |
| กิจกรรมหลัก | นิเทศแบบ Coaching, PLC, ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น |
| สมมติฐานสำคัญ | ครูมีแรงจูงใจ, ผู้บริหารสนับสนุน, มีสื่อที่เหมาะสม, มีเวลาเพียงพอ, มีการพัฒนาวิชาชีพ, มีระบบติดตามผล |
3. ขั้นตอนการนิเทศเชิงระบบ
🔹 ขั้นที่ 1: การวิเคราะห์บริบท
- สำรวจข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
- ระบุจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค (SWOT)
🔹 ขั้นที่ 2: การออกแบบแผนนิเทศ
- ใช้แผนภาพ ToC เป็นฐานในการกำหนดกิจกรรม
- ระบุเป้าหมาย ผลลัพธ์ ตัวชี้วัด และสมมติฐาน
🔹 ขั้นที่ 3: การดำเนินการนิเทศ
- ใช้รูปแบบ Coaching & Mentoring
- ส่งเสริม PLC และการเรียนรู้ร่วมกัน
- เชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นกับการเรียนรู้
🔹 ขั้นที่ 4: การติดตามและประเมินผล
- ใช้ตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับผลลัพธ์ใน ToC
- สะท้อนผลร่วมกับครูและผู้บริหาร
- ปรับปรุงแผนตามข้อมูลที่ได้
4. เครื่องมือประกอบการนิเทศ
- ✅ แผนภาพ Theory of Change (เวอร์ชันปรับแต่ง)
- ✅ แบบฟอร์มวิเคราะห์บริบทโรงเรียน
- ✅ แบบประเมินผลลัพธ์การนิเทศ
- ✅ Template รายงาน PA ที่อิงจาก ToC
5. ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ (กรณีศึกษาโรงเรียนในบุรีรัมย์)
- สรุปผลการนิเทศโดยใช้ ToC
- แสดงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริง
- สะท้อนบทเรียนและข้อเสนอแนะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น