Learn how to harness the power of Gen AI for supervising in education

“Learn how to harness the power of Gen AI for supervising in education” มีนัยว่า:

1. Gen AI = Generative Artificial Intelligence

เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Claude, Bard หรือโปรแกรมสร้างภาพ (เช่น Midjourney) สามารถสร้างข้อความ แผนการสอน ข้อเสนอแนะ ภาพ หรือสรุปข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ

2. Harness the power = การใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ใช้แบบผ่าน ๆ

หมายถึงการบูรณาการ AI เข้าสู่การนิเทศ/การกำกับดูแลการศึกษาอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ใช่ใช้แบบสุ่ม ๆ แต่ต้องกำหนดเป้าหมาย (เช่น ให้ feedback เร็วขึ้น หรือวิเคราะห์เชิงลึกมากขึ้น) และเลือกใช้เครื่องมือให้ตรงกับงาน

3. Supervising in education = การกำกับ ติดตาม และสนับสนุนครูและกระบวนการเรียนรู้

ในบริบทการศึกษา “supervising” มักหมายถึง

การนิเทศการสอน (Instructional supervision) → สังเกตชั้นเรียน ให้ feedback และโค้ชครู

การกำกับดูแลด้านบริหาร (Administrative supervision) → ตรวจสอบการดำเนินนโยบาย การประเมินผลการปฏิบัติงาน (PA) และมาตรฐานต่าง ๆ

การพัฒนาวิชาชีพ (Professional development) → ช่วยให้ครูเติบโตในสายอาชีพ



---

✨ ดังนั้น วลีนี้จึงสื่อว่า:
การเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือ Gen AI เพื่อทำให้การนิเทศ/กำกับดูแลทางการศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้น มีฐานข้อมูลรองรับ และปรับให้ตรงกับความต้องการแต่ละบุคคล


---

🔹 ตัวอย่างการใช้งานที่เป็นรูปธรรม:

บันทึกการสังเกตและข้อเสนอแนะ: ผู้บริหาร/ศึกษานิเทศก์สามารถจดบันทึกการสังเกตการสอน แล้วใช้ Gen AI สร้าง feedback ที่มีโครงสร้างและเป็นเชิงบวกได้อย่างรวดเร็ว

การประเมินผลการปฏิบัติงาน (PA): แทนที่จะต้องอ่านรายงานยาว ๆ ทั้งหมด AI สามารถสรุปประเด็นเด่น จุดแข็ง และพื้นที่ที่ต้องพัฒนาได้

การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend analysis): AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสำรวจครู/นักเรียน เพื่อชี้ให้เห็นรูปแบบ เช่น คุณภาพการสอน ภาระงาน หรือความเป็นอยู่ที่ดี

การสนับสนุนการโค้ช (Coaching support): ใช้ AI สร้างทรัพยากรส่วนบุคคล เช่น บทความ กลยุทธ์ หรือเช็กลิสต์ ที่ตรงกับความต้องการของครูแต่ละคน

การสนับสนุนด้านภาษา (Language support): ในโรงเรียนที่มีหลายภาษา AI สามารถแปลเอกสารหรือ feedback เป็นภาษาที่ครูสะดวกได้



---

✅ สรุปสั้น ๆ:
หมายความว่า ผู้นำทางการศึกษา/ผู้กำกับดูแล ควรเรียนรู้วิธีประยุกต์ใช้ Gen AI เพื่อทำให้งานนิเทศรวดเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และมีคุณภาพการสนับสนุนมากขึ้น — ช่วยครูและโรงเรียนพัฒนาได้โดยไม่เพิ่มภาระงานเกินจำเป็น


ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

รูปภาพ
     ผู้ที่ลงมือปลูกต้นไม้ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีโอกาสได้นั่งใต้ร่มเงาของมันนั้น อย่างน้อยที่สุดก็เป็นผู้ที่เริ่มจะเข้าใจในความหมายของชีวิต  - รพินทรนาถ ฐากุร       จาก โรงเรียนแห่งนี้ไปนาน 40 ปีแล้ว คราวนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) ได้กลับมาอีกครั้งในสถานะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา สพม. บุรีรัมย์ ที่มี รอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ บุญชาย โชยรัมย์เป็นหัวหน้าคณะ ฯ....       ในระหว่างนั้น โรงเรียนให้บริการเด็กบ้านไกลด้วยการเปิดห้องเรียนที่ว่าง ให้เป็นหอพักเพื่อให้เด็ก (ชาย/หญิง) ได้อาศัย แทนการเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน..        นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน มาพักโรงเรียนเพียงนำข้าวสารใส่ถุงปุ๋ยเป็นเสบียงติดตัวมาเท่านั้น..ครูผู้ดูแลจึงออกแบบหลักสูตรโดยใช้ปัญหาการดำเนินชีวิตเป็นฐาน (Problem - based learning)              รอง ผอ. สพม บร. บุญชาย โชยรัมย์         การวิเคราะห์ปัจจัยเพื่อความอยู่รอดไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเด็กเหล่านั...
อ่านเพิ่มเติม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

รูปภาพ
          หากทุกคนพบตนเองในที่ตนเองอยู่ความมหัศจรรย์จะบังเกิดขึ้น...           คณะ อนุกรรมการ ก.ต.ป.น. สพม.บร. ที่นำโดย รอง ผอ. สพม.บร. บุญชาย โชยรัมย์ เดินทางไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กที่อยู่ชายขอบ (Marginal School) เพื่อพิสูจน์ว่า มีคุณภาพต่ำกว่าโรงเรียนในเมือง แต่กลับพบว่า พวกเขาต้องเผชิญกับความจริงที่น่าตกตะลึงแทน....            โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม อำเภอลำปลายมาศ จังหวัด บุรีรัมย์  มีนักเรียนทั้งหมดจำนวน  134 คน ครูจำนวน  12 คน มีห้องเรียน ม.ต้น และ ม.ปลาย จำนวน 6 ห้องเรียน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก อยู่ชายขอบพื้นที่บริการระหว่างอำเภอ มี ผอ. พลอยไพลิน สว่างพล เป็นผู้บริหาร...          ผอ. พลอยไพลิน สว่างพล           สังคมไทยมีทัศนคติที่หลากหลายเกี่ยวกับโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือชายขอบ ซึ่งมักจะมีความแตกต่างจากโรงเรียนขนาดใหญ่ในเมือง ทัศนคติเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายด้าน เช่น    ...
อ่านเพิ่มเติม

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...

รูปภาพ
                                              (1)         มี คำกล่าวที่ว่า เกรียงไกรเพียงใด ก็ใช่จะอยู่ค้ำฟ้า นั่นหมายความว่า สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งจะต้องตายแน่แน่...        แม้ว่า..อาจจะทำใจได้ยากกับคำกล่าวนี้ แต่ "สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ได้ประโยชน์มากกว่า เมื่อเลือกที่จะตายบนเส้นทางของวิวัฒนาการ"          ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น สิ่งมีชีวิตใช่ว่าจะยอมจำนนง่าย ๆ เพราะบนเส้นทางวิวัฒนาการ มีสิ่งที่แสดงให้เห็นตลอดมาว่า สิ่งมีชีวิตต่างก็ขัดขืน ด้วยการรักษาภาวะความคงที่ไว้สุดฤทธ์ หรือเรียกอีกอย่างว่า ภาวะธำรงดุล       ภาวะธำรงดุลคือ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง หากสูญเสียความสามารถในการรักษาสภาวะต่าง ๆ ของร่างกายให้คงที่ มนุษย์ย่อมล้มป่วย และสาเหตุของความเจ็บป่วยมาจากเซลล์ เมื่อเซลล์ถูกจุลชีพก่อโรครุกรานเข้ามาทำลาย หรือทำให้หน่วยพันธุกรรมผิดเพี้ยน ภาวะธำรงดุลก็จะล่มส...
อ่านเพิ่มเติม