รายงานสังเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จของแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice)ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ ประจำปีการศึกษา 2568




1. ที่มาและความสำคัญของรายงาน
    สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ โดยคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.) ได้ดำเนินการรวบรวม วิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ของสถานศึกษาในสังกัด ประจำปีการศึกษา 2568 เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาคุณภาพการศึกษา และขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของชาติ
     รายงานฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ สังเคราะห์ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ของแนวปฏิบัติที่ดีในโรงเรียนต่าง ๆ และเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการกำหนดแนวทางนิเทศ ติดตาม และส่งเสริมการพัฒนาโรงเรียนให้เกิดคุณภาพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

2. วัตถุประสงค์ของการสังเคราะห์
     1. เพื่อวิเคราะห์แนวปฏิบัติที่ดีของสถานศึกษาในสังกัด สพม.บุรีรัมย์ ที่ประสบผลสำเร็จ
      2. เพื่อสังเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการดำเนินงานด้านการจัดการศึกษา
      3. เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่

3. วิธีดำเนินการสังเคราะห์
     1. การสังเคราะห์ดำเนินการโดยการศึกษาเอกสาร “แบบสรุปวิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ของสถานศึกษา สังกัด สพม.บุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2568”
     2. วิเคราะห์และเปรียบเทียบปัจจัยความสำเร็จจากแต่ละโรงเรียน

สรุปแนวโน้มภาพรวมในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
      โรงเรียนตัวอย่างที่นำมาวิเคราะห์ได้แก่
      1. โรงเรียนกนกศิลป์พิทยาคม (G2T2 Model – Active Learning)
      2. โรงเรียนสองห้องพิทยาคม (การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศและ Soft Power)
       3. โรงเรียนกลันทาพิทยาคม (LOVEs Model – ระบบดูแลช่วยเหลือ)
       4. โรงเรียนหนองตาดพิทยาคม (KHAM SUK3+ Model – ทักษะอาชีพและเศรษฐกิจพอเพียง)
       5. โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม (BK 5E&5S Model – การบริหารจัดการแบบองค์รวม)

4. ผลการสังเคราะห์
     4.1 ปัจจัยแห่งความสำเร็จเชิงระบบ (System Factors)
          - การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน
          - การใช้วงจรคุณภาพ PDCA และระบบนิเทศภายในแบบกัลยาณมิตร
          - การกำหนดเป้าหมายและติดตามผลด้วยข้อมูลจริง สร้างความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล
     4.2 ปัจจัยด้านนวัตกรรมการเรียนรู้ (Pedagogical Innovation)
          - การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่เน้นการลงมือปฏิบัติ
          - การบูรณาการแนวคิด Soft Power และ เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของผู้เรียน
          - การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสื่อออนไลน์ในการเรียนรู้ (เช่น BK Media Center, Buriram Open Class)
     4.3 ปัจจัยด้านคุณภาพผู้เรียน (Learner Outcomes)
           - ผู้เรียนมีสมรรถนะสำคัญครบด้าน (การคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และความคิดสร้างสรรค์)
           - มีคุณธรรม จริยธรรม และทักษะชีวิต
           - มีทักษะอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
      4.4 ปัจจัยด้านภาคีเครือข่ายและชุมชน (Partnership & Community Involvement)
            - ความร่วมมือของหน่วยงานภายนอก เช่น อบต., โรงพยาบาล, วัด, และภาคเอกชน
            - การสนับสนุนทรัพยากร บุคลากร และเวทีแสดงผลงาน
            - การเผยแพร่ผลงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อชุมชน

5. ตัวอย่างแนวปฏิบัติที่ดีเด่น

(ประเด็น) : โรงเรียน นวัตกรรม / รูปแบบ ผลลัพธ์เด่น

- กนกศิลป์พิทยาคม,  G2T2 Model (นิเทศห้องเรียนฐาน Active Learning)/  ครูทุกคนจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning 100%, ผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้น 70%

- สองห้องพิทยาคม,  Soft Power for Excellence/ ผู้เรียนมีผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมและนวัตกรรม

- กลันทาพิทยาคม,  LOVEs Model (ระบบดูแลช่วยเหลือเชิงบวก) / นักเรียนได้รับการดูแลทั่วถึง ปัญหาพฤติกรรมลดลง

- หนองตาดพิทยาคม,  KHAM SUK3+ Model (อาชีพ–พอเพียง–ยั่งยืน)/ นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน มีทักษะอาชีพจริง

- บัวหลวงวิทยาคม, BK 5E&5S Model (เรียนดี ครูดี หลักสูตรดี สื่อดี ระบบดี)/ โรงเรียนยกระดับคุณภาพโดยรวม,  ครูและนักเรียนมีความสุข

6. ข้อสรุปเชิงวิเคราะห์
     -  ภาพรวมของ Best Practice ในเขตพื้นที่ สพม.บุรีรัมย์ สะท้อนให้เห็นว่า “ความสำเร็จของโรงเรียน” เกิดจากการ
บูรณาการทั้งระบบ ระหว่างการบริหารจัดการ การพัฒนาครู นวัตกรรมการเรียนรู้ และความร่วมมือของชุมชน โดยมีจุดร่วมคือ
      -  การมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Learner-Centric)
      - การพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามหลัก PDCA
      - การใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐานในการปลูกฝังคุณลักษณะผู้เรียน
      - การสร้างความภาคภูมิใจใน
อัตลักษณ์ท้องถิ่นและความเป็นไทย


7. ข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางพัฒนา
    1. ขยายผลนวัตกรรม Best Practice ไปยังโรงเรียนในสหวิทยาเขตอื่น ๆ ผ่านระบบ “Buriram Learning Hub”
    2. สร้างเครือข่ายครูแกนนำ (Master Teachers) เพื่อเป็นพี่เลี้ยงนิเทศภายในระหว่างโรงเรียน
    3. จัดทำคลังข้อมูลนวัตกรรม (Digital Repository) ของ Best Practice ระดับเขตพื้นที่
     4. ส่งเสริมการใช้ Soft Power และเศรษฐกิจพอเพียง เป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนคุณภาพผู้เรียน
     5. นิเทศติดตามแบบกัลยาณมิตร (Friendly Supervision) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความยั่งยืนของการพัฒนา






8. บรรณานุกรม 

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์. (2568). แบบสรุปวิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ ประจำปีการศึกษา 2568. กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.).


9. ภาคผนวก (แนวทางสรุปปัจจัยแห่งความสำเร็จ)

(ประเด็น) หมวดปัจจัย /รายละเอียด / ตัวชี้วัดความสำเร็จ

- การบริหารจัดการ / ใช้ PDCA, มีส่วนร่วม, โปร่งใส / แผนปฏิบัติการชัดเจน ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย

- การพัฒนาครู / PLC, Lesson Study, นิเทศกัลยาณมิตร /ครูพัฒนานวัตกรรมการสอน

- นวัตกรรมการเรียนรู้ / Active Learning, Soft Power, Digital Learning / ผู้เรียนมีสมรรถนะสำคัญ
คุณภาพผู้เรียน คุณธรรม ทักษะชีวิต อาชีพ มีผลงานเชิงประจักษ์

- เครือข่ายชุมชน / ภาคีร่วมสนับสนุน/  มีโครงการร่วมภายนอก




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...