กลยุทธ์การพัฒนาเชิงระบบและการขับเคลื่อนนโยบาย สพม.บุรีรัมย์


🌐 กลยุทธ์การพัฒนาเชิงระบบและการขับเคลื่อนนโยบาย

เป้าหมาย: ยกระดับคุณภาพผู้เรียนทั้งด้านวิชาการ สมรรถนะ และคุณลักษณะ ผ่านการสร้างระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ใช้ฐานข้อมูลเชิงวิจัย และอาศัยพลังความร่วมมือของทุกฝ่าย

1. ต่อยอด Active Learning → ขยายแนวปฏิบัติสู่ระบบ

กลยุทธ์เชิงระบบ:

จัดตั้ง ศูนย์ต้นแบบ Active Learning ในแต่ละ Cluster โรงเรียน

พัฒนากลไก Co-Teaching และ Lesson Study เป็นระบบสนับสนุนครู

ใช้ PDCA + Evidence of Impact เพื่อติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

นโยบายสนับสนุน:

บรรจุ Active Learning ใน นโยบายหลักของ สพม.

จัดสรรทรัพยากร/งบประมาณพิเศษแก่โรงเรียนที่ขยายผลสำเร็จ

2. เร่งแก้จุดอ่อนด้านการอ่าน → เชื่อมโยงทุกสาระ

กลยุทธ์เชิงระบบ:

พัฒนา Reading Across Curriculum: ให้ทุกสาระบูรณาการการอ่าน

ใช้ EdTech/AI Tools เช่น แอปอ่านออกเสียง, แบบฝึกอ่านออนไลน์

ติดตามความก้าวหน้าการอ่านผ่าน ระบบประเมินรายบุคคล (Dashboard)

นโยบายสนับสนุน:

บรรจุ “Reading Policy” เป็น Agenda หลัก ในการพัฒนาโรงเรียน

สร้างเครือข่ายครูแกนนำด้านการอ่านทุกอำเภอ

3. พัฒนา Data System → ใช้ MetaX และงานวิจัยสากล

กลยุทธ์เชิงระบบ:

จัดทำ Data Warehouse ระดับเขตพื้นที่ ที่รวมผลสัมฤทธิ์, การอ่าน, Active Learning, ความสุขผู้เรียน

ใช้กรอบ MetaX Effect Size เป็นตัวชี้วัดผลลัพธ์หลัก

ฝึกอบรมผู้บริหาร–ครูด้าน Data Literacy เพื่ออ่านและใช้ข้อมูลเชิงลึกได้จริง

นโยบายสนับสนุน:

กำหนดเป็น นโยบาย Data-Driven Education ของเขตพื้นที่

เชื่อมข้อมูลกับ OBEC Big Data เพื่อสร้างมาตรฐานกลาง

4. เสริมพลังการมีส่วนร่วม → เครือข่ายโรงเรียน–ผู้ปกครอง–ชุมชน

กลยุทธ์เชิงระบบ:

สร้าง เครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ (PLC ระดับเขต) ที่รวมโรงเรียน–ครู–ผู้ปกครอง

จัดทำ School Partnership Model: โรงเรียนจับคู่กับองค์กร/ชุมชน

ใช้กลไก ก.ต.ป.น. เป็น พื้นที่กลาง เชื่อมโยงทุกภาคส่วน

นโยบายสนับสนุน:

นำ “การมีส่วนร่วม” บรรจุใน เกณฑ์ประเมินคุณภาพสถานศึกษา

สนับสนุนงบประมาณและรางวัลสำหรับโรงเรียนที่ทำงานร่วมกับชุมชนได้โดดเด่น

🔑 สรุปเชิงกลยุทธ์

1. Active Learning = ตัวขับเคลื่อนคุณภาพเชิงรุก

2. การอ่าน = จุดอ่อนที่ต้องเร่งแก้

3. Data System = สมองกลางของการตัดสินใจเชิงนโยบาย

4. การมีส่วนร่วม = พลังขับเคลื่อนยั่งยืน

👉 หากทั้ง 4 มิติถูกขับเคลื่อนไปพร้อมกัน จะทำให้ระบบการศึกษาของ สพม.บุรีรัมย์ ก้าวสู่ “Education Ecosystem ที่โปร่งใส ใช้ข้อมูลจริง และขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือ”




ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

รูปภาพ
     ผู้ที่ลงมือปลูกต้นไม้ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีโอกาสได้นั่งใต้ร่มเงาของมันนั้น อย่างน้อยที่สุดก็เป็นผู้ที่เริ่มจะเข้าใจในความหมายของชีวิต  - รพินทรนาถ ฐากุร       จาก โรงเรียนแห่งนี้ไปนาน 40 ปีแล้ว คราวนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) ได้กลับมาอีกครั้งในสถานะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา สพม. บุรีรัมย์ ที่มี รอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ บุญชาย โชยรัมย์เป็นหัวหน้าคณะ ฯ....       ในระหว่างนั้น โรงเรียนให้บริการเด็กบ้านไกลด้วยการเปิดห้องเรียนที่ว่าง ให้เป็นหอพักเพื่อให้เด็ก (ชาย/หญิง) ได้อาศัย แทนการเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน..        นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน มาพักโรงเรียนเพียงนำข้าวสารใส่ถุงปุ๋ยเป็นเสบียงติดตัวมาเท่านั้น..ครูผู้ดูแลจึงออกแบบหลักสูตรโดยใช้ปัญหาการดำเนินชีวิตเป็นฐาน (Problem - based learning)              รอง ผอ. สพม บร. บุญชาย โชยรัมย์         การวิเคราะห์ปัจจัยเพื่อความอยู่รอดไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเด็กเหล่านั...
อ่านเพิ่มเติม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

รูปภาพ
          หากทุกคนพบตนเองในที่ตนเองอยู่ความมหัศจรรย์จะบังเกิดขึ้น...           คณะ อนุกรรมการ ก.ต.ป.น. สพม.บร. ที่นำโดย รอง ผอ. สพม.บร. บุญชาย โชยรัมย์ เดินทางไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กที่อยู่ชายขอบ (Marginal School) เพื่อพิสูจน์ว่า มีคุณภาพต่ำกว่าโรงเรียนในเมือง แต่กลับพบว่า พวกเขาต้องเผชิญกับความจริงที่น่าตกตะลึงแทน....            โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม อำเภอลำปลายมาศ จังหวัด บุรีรัมย์  มีนักเรียนทั้งหมดจำนวน  134 คน ครูจำนวน  12 คน มีห้องเรียน ม.ต้น และ ม.ปลาย จำนวน 6 ห้องเรียน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก อยู่ชายขอบพื้นที่บริการระหว่างอำเภอ มี ผอ. พลอยไพลิน สว่างพล เป็นผู้บริหาร...          ผอ. พลอยไพลิน สว่างพล           สังคมไทยมีทัศนคติที่หลากหลายเกี่ยวกับโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือชายขอบ ซึ่งมักจะมีความแตกต่างจากโรงเรียนขนาดใหญ่ในเมือง ทัศนคติเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายด้าน เช่น    ...
อ่านเพิ่มเติม

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...

รูปภาพ
                                              (1)         มี คำกล่าวที่ว่า เกรียงไกรเพียงใด ก็ใช่จะอยู่ค้ำฟ้า นั่นหมายความว่า สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งจะต้องตายแน่แน่...        แม้ว่า..อาจจะทำใจได้ยากกับคำกล่าวนี้ แต่ "สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ได้ประโยชน์มากกว่า เมื่อเลือกที่จะตายบนเส้นทางของวิวัฒนาการ"          ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น สิ่งมีชีวิตใช่ว่าจะยอมจำนนง่าย ๆ เพราะบนเส้นทางวิวัฒนาการ มีสิ่งที่แสดงให้เห็นตลอดมาว่า สิ่งมีชีวิตต่างก็ขัดขืน ด้วยการรักษาภาวะความคงที่ไว้สุดฤทธ์ หรือเรียกอีกอย่างว่า ภาวะธำรงดุล       ภาวะธำรงดุลคือ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง หากสูญเสียความสามารถในการรักษาสภาวะต่าง ๆ ของร่างกายให้คงที่ มนุษย์ย่อมล้มป่วย และสาเหตุของความเจ็บป่วยมาจากเซลล์ เมื่อเซลล์ถูกจุลชีพก่อโรครุกรานเข้ามาทำลาย หรือทำให้หน่วยพันธุกรรมผิดเพี้ยน ภาวะธำรงดุลก็จะล่มส...
อ่านเพิ่มเติม