ตัวอย่าง Dashboard “Learning Analytics + Effect Size”ที่ใช้ได้กับการนิเทศของ ก.ต.ป.น. สพม.บุรีรัมย์

ตัวอย่าง Dashboard “Learning Analytics + Effect Size”
ที่ใช้ได้กับการนิเทศของ ก.ต.ป.น. สพม.บุรีรัมย์ 


ออกแบบในรูปแบบที่สามารถสร้างได้จริงด้วย Excel / Google Data Studio / Power BI โดยใช้ข้อมูลจากผลการเรียนรู้ของนักเรียนและการสะท้อนผลของครู

ชื่อ Dashboard:

“Learning Analytics Dashboard เพื่อการนิเทศเชิงหลักฐาน (Evidence-Based Supervision Dashboard)”

โครงสร้าง Dashboard แบ่งเป็น 5 ส่วนหลัก

ส่วน /ชื่อส่วน /วัตถุประสงค์/ ตัวชี้วัดหลัก (Key Indicators)

     1 ภาพรวม (Overview) แสดงภาพรวมการเรียนรู้ของโรงเรียนหรือกลุ่มสาระ - ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์รวม<br>- ค่าเฉลี่ย Effect Size<br>- ร้อยละของนักเรียนที่มีพัฒนาการสูง<br>- สัดส่วนครูที่ใช้การสอนเชิงหลักฐาน
      2 ข้อมูลผู้เรียน (Learner Analytics) วิเคราะห์พฤติกรรมและความก้าวหน้าของนักเรียน - คะแนนก่อน–หลังเรียน<br>- การเข้าเรียน (Attendance Rate)<br>- การมีส่วนร่วมในกิจกรรม (Engagement Index)<br>- เวลาที่ใช้ใน LMS / Online Class
      3 ข้อมูลครูและการสอน (Teaching Analytics) ติดตามการใช้กลยุทธ์การสอนและ Feedback - จำนวนกิจกรรม PLC<br>- ความถี่ในการให้ Feedback แก่นักเรียน<br>- การใช้วิธีการสอนที่มีค่า Effect Size สูง (เช่น Feedback, Cooperative Learning)
     4 ผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcomes) แสดงการเปลี่ยนแปลงเชิงสถิติและคุณภาพ - ค่า Effect Size รายชั้น / รายกลุ่มสาระ<br>- ระดับการพัฒนา (สูง / ปานกลาง / ต่ำ)<br>- แผนภูมิเปรียบเทียบก่อน–หลังเรียน
     5 ข้อเสนอเชิงนิเทศ (Supervision Insight) ใช้สรุปเพื่อการนิเทศและวางแผนพัฒนา - สรุปกลุ่มที่ต้องการการสนับสนุน<br>- จุดแข็งและแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice)<br>- ข้อเสนอแนะเชิงพัฒนา (Action Plan)

📊 ตัวอย่างภาพ Dashboard (โครงแบบหน้าจอ)

│ 🏫 Learning Analytics Dashboard │
│----------------------------------------------│
│ 🔸 ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์รวม: 72.5% │
│ 🔸 ค่า Effect Size รวม: 0.48 (ปานกลาง+) │
│ 🔸 นักเรียนพัฒนาเพิ่มขึ้น: 68% │
│ 🔸 โรงเรียนที่ใช้กลยุทธ์ Feedback > 3 ครั้ง/สัปดาห์: 82% │
│----------------------------------------------│
│ 📈 กราฟเปรียบเทียบคะแนนก่อน–หลังเรียน (Pre/Post Test) │
│ 📊 แผนภูมิแท่งแสดงค่า Effect Size รายกลุ่มสาระ │
│ 🧠 กราฟวงกลม: ประเภทกลยุทธ์การสอนที่ใช้บ่อยที่สุด │
│----------------------------------------------│
│ 👩‍🏫 ครูที่มีผลการสอนดีเด่น (Effect Size > 0.6): 15 คน │
│ 👨‍🎓 นักเรียนที่พัฒนาโดดเด่น (Top 10% Progress) │
│----------------------------------------------│
│ 📌 ข้อเสนอเชิงนิเทศ (Insight): │
│ - ส่งเสริมการใช้ Feedback ที่เฉพาะเจาะจงในทุกวิชา │
│ - สนับสนุนครูใหม่ผ่าน PLC สายชั้นละ 1 ครั้ง/เดือน │
│ - พัฒนาเครื่องมือสะท้อนผลนักเรียน (Student Voice) │

ตัวอย่างตารางข้อมูลที่ใช้เชื่อมกับ Dashboard

รหัสนักเรียน/คะแนนก่อน/ คะแนนหลัง/ ค่า Effect Size /การเข้าเรียน (%) /การเข้าร่วมกิจกรรม/ครูผู้สอน กลยุทธ์ที่ใช้ / หมายเหตุ

101 /56/ 72 /0.52/ 95/ สูง /ครูมาลี Feedback + Group Work/ พัฒนาเด่น

102/ 48 /60 /0.35 /90/ ปานกลาง/ ครูมาลี Feedback/ ต้องการเสริม

103/ 66/ 84 /0.63 /100 /สูง /ครูพจน์ Cooperative Learning/ ดีเยี่ยม

104 /70 /72 /0.08/ 80 /ต่ำ /ครูพจน์ Lecture/ ไม่มีพัฒนา

→ จากข้อมูลนี้ Dashboard จะคำนวณและสร้างภาพรวมโดยอัตโนมัติ เช่น
      - ค่าเฉลี่ย Effect Size รวมโรงเรียน
      - สัดส่วนนักเรียนที่มีการพัฒนา ≥ 0.4
       - Top 5 กลยุทธ์การสอนที่มีผลสูงสุด

ตัวชี้วัดสำคัญที่แนะนำให้แสดงใน Dashboard

หมวด /ตัวชี้วัดหลัก/ ความหมาย

ผลสัมฤทธิ์/ ค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียน/ วัดผลลัพธ์การเรียนรู้โดยตรง

ผลกระทบ (Effect Size)/ ค่าเฉลี่ยและระดับผล (สูง/กลาง/ต่ำ) /วัดความแรงของการเปลี่ยนแปลง

การมีส่วนร่วม Engagement Index/ รวมการเข้าร่วม/ การตอบคำถาม การส่งงาน

การสอนของครู/ Frequency of Evidence-based Strategies/ ความถี่การใช้วิธีสอนที่มีหลักฐานรองรับ

การนิเทศ /Supervision Feedback Score /ระดับการสนับสนุนจาก ก.ต.ป.น.

การเชื่อมโยงกับการนิเทศของ ก.ต.ป.น.

Dashboard นี้จะช่วยให้
     - ครู เห็นผลลัพธ์ของการสอนในเชิงหลักฐาน
      - ผู้บริหารโรงเรียน วางแผนพัฒนาครูอย่างตรงจุด
      - ก.ต.ป.น. ใช้ข้อมูลจริงในการนิเทศ ติดตาม และให้ข้อเสนอแนะ

ตัวอย่างเช่น
      “รายวิชาภาษาอังกฤษมีค่า Effect Size 0.65 สูงสุดในเขตพื้นที่ → ก.ต.ป.น. เสนอขยาย Best Practice สู่โรงเรียนเครือข่าย”

สรุปจุดเด่นของ Dashboard นี้

✅ รวมข้อมูลผลสัมฤทธิ์และพฤติกรรมการเรียนรู้ไว้ในที่เดียว
✅ วัดความแรงของผล (Effect Size) ได้ทันที
✅ ใช้สนับสนุนการนิเทศเชิงหลักฐานของ ก.ต.ป.น.
✅ สร้างได้จริงใน Excel หรือ Google Data Studio
✅ ขยายผลสู่ระบบติดตามระดับเขตพื้นที่ได้





ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

รูปภาพ
     ผู้ที่ลงมือปลูกต้นไม้ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีโอกาสได้นั่งใต้ร่มเงาของมันนั้น อย่างน้อยที่สุดก็เป็นผู้ที่เริ่มจะเข้าใจในความหมายของชีวิต  - รพินทรนาถ ฐากุร       จาก โรงเรียนแห่งนี้ไปนาน 40 ปีแล้ว คราวนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) ได้กลับมาอีกครั้งในสถานะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา สพม. บุรีรัมย์ ที่มี รอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ บุญชาย โชยรัมย์เป็นหัวหน้าคณะ ฯ....       ในระหว่างนั้น โรงเรียนให้บริการเด็กบ้านไกลด้วยการเปิดห้องเรียนที่ว่าง ให้เป็นหอพักเพื่อให้เด็ก (ชาย/หญิง) ได้อาศัย แทนการเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน..        นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน มาพักโรงเรียนเพียงนำข้าวสารใส่ถุงปุ๋ยเป็นเสบียงติดตัวมาเท่านั้น..ครูผู้ดูแลจึงออกแบบหลักสูตรโดยใช้ปัญหาการดำเนินชีวิตเป็นฐาน (Problem - based learning)              รอง ผอ. สพม บร. บุญชาย โชยรัมย์         การวิเคราะห์ปัจจัยเพื่อความอยู่รอดไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเด็กเหล่านั...
อ่านเพิ่มเติม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

รูปภาพ
          หากทุกคนพบตนเองในที่ตนเองอยู่ความมหัศจรรย์จะบังเกิดขึ้น...           คณะ อนุกรรมการ ก.ต.ป.น. สพม.บร. ที่นำโดย รอง ผอ. สพม.บร. บุญชาย โชยรัมย์ เดินทางไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กที่อยู่ชายขอบ (Marginal School) เพื่อพิสูจน์ว่า มีคุณภาพต่ำกว่าโรงเรียนในเมือง แต่กลับพบว่า พวกเขาต้องเผชิญกับความจริงที่น่าตกตะลึงแทน....            โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม อำเภอลำปลายมาศ จังหวัด บุรีรัมย์  มีนักเรียนทั้งหมดจำนวน  134 คน ครูจำนวน  12 คน มีห้องเรียน ม.ต้น และ ม.ปลาย จำนวน 6 ห้องเรียน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก อยู่ชายขอบพื้นที่บริการระหว่างอำเภอ มี ผอ. พลอยไพลิน สว่างพล เป็นผู้บริหาร...          ผอ. พลอยไพลิน สว่างพล           สังคมไทยมีทัศนคติที่หลากหลายเกี่ยวกับโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือชายขอบ ซึ่งมักจะมีความแตกต่างจากโรงเรียนขนาดใหญ่ในเมือง ทัศนคติเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายด้าน เช่น    ...
อ่านเพิ่มเติม

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...

รูปภาพ
                                              (1)         มี คำกล่าวที่ว่า เกรียงไกรเพียงใด ก็ใช่จะอยู่ค้ำฟ้า นั่นหมายความว่า สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งจะต้องตายแน่แน่...        แม้ว่า..อาจจะทำใจได้ยากกับคำกล่าวนี้ แต่ "สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ได้ประโยชน์มากกว่า เมื่อเลือกที่จะตายบนเส้นทางของวิวัฒนาการ"          ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น สิ่งมีชีวิตใช่ว่าจะยอมจำนนง่าย ๆ เพราะบนเส้นทางวิวัฒนาการ มีสิ่งที่แสดงให้เห็นตลอดมาว่า สิ่งมีชีวิตต่างก็ขัดขืน ด้วยการรักษาภาวะความคงที่ไว้สุดฤทธ์ หรือเรียกอีกอย่างว่า ภาวะธำรงดุล       ภาวะธำรงดุลคือ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง หากสูญเสียความสามารถในการรักษาสภาวะต่าง ๆ ของร่างกายให้คงที่ มนุษย์ย่อมล้มป่วย และสาเหตุของความเจ็บป่วยมาจากเซลล์ เมื่อเซลล์ถูกจุลชีพก่อโรครุกรานเข้ามาทำลาย หรือทำให้หน่วยพันธุกรรมผิดเพี้ยน ภาวะธำรงดุลก็จะล่มส...
อ่านเพิ่มเติม