(โครงร่าง) รายงานการออกแบบการสอนที่ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence-Informed Teaching) นำเสนอต่อ คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.) สพม.บุรีรัมย์

โครงร่างรายงานการออกแบบการสอนที่ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence-Informed Teaching) นำเสนอต่อ คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.) สพม.บุรีรัมย์

การออกแบบการสอนที่ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence-Informed Teaching) สอดคล้องกับ Model การใช้ Effect Size และ Learning Analytics เพื่อการนิเทศของ ก.ต.ป.น. สพม.บุรีรัมย์”

ส่วนที่ 1 : บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญ
     การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในศตวรรษที่ 21 จำเป็นต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่อิงข้อมูลเชิงประจักษ์ เพื่อให้การสอนมีประสิทธิผลและตอบสนองต่อบริบทของผู้เรียนอย่างแท้จริง
      สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ จึงได้ส่งเสริมให้ครูและสถานศึกษานำแนวคิด Evidence-Informed Teaching มาประยุกต์ใช้ โดยมี Effect Size และ Learning Analytics เป็นเครื่องมือสำคัญในการวัดผลและสะท้อนคุณภาพของการจัดการเรียนรู้
      ทั้งนี้ เพื่อให้การนิเทศของ ก.ต.ป.น. มีความชัดเจน โปร่งใส และสามารถนำผลการติดตามไปสู่การพัฒนาการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม

ส่วนที่ 2 : วัตถุประสงค์
       2.1 เพื่อพัฒนาแนวทางการสอนที่ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence-Informed Teaching) ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาในสังกัด สพม.บุรีรัมย์
       2.2 เพื่อใช้ Effect Size และ Learning Analytics เป็นเครื่องมือในการติดตาม ประเมิน และนิเทศผลการเรียนรู้ของนักเรียน
       2.3. เพื่อยกระดับสมรรถนะของครูในการใช้ข้อมูลเชิงหลักฐานเพื่อปรับปรุงการสอน
       2.4 เพื่อสร้างวัฒนธรรมการนิเทศที่เน้นข้อมูลจริงและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน

ส่วนที่ 3 : กรอบแนวคิดและหลักการ
      Evidence-Informed Teaching = งานวิจัย (Research Evidence) + ประสบการณ์ครู (Professional Expertise) + บริบทผู้เรียน (Local Context) โดยมี Effect Size และ Learning Analytics เป็นเครื่องมือประเมินและขับเคลื่อนการพัฒนา

องค์ประกอบหลักของแนวคิด
     1. Research Evidence – ใช้งานวิจัยและข้อมูล meta-analysis ที่ชี้ให้เห็นกลยุทธ์การสอนที่มีประสิทธิผลสูง (เช่น John Hattie’s Visible Learning)
      2. Professional Expertise – ใช้ประสบการณ์และการสะท้อนผลของครู เพื่อปรับใช้แนวทางให้เหมาะกับห้องเรียนจริง
       3. Local Context – พิจารณาลักษณะเฉพาะของนักเรียน โรงเรียน และทรัพยากรในพื้นที่
       4. Effect Size – ใช้คำนวณขนาดของผลลัพธ์การเรียนรู้ เพื่อประเมินความแรงของการเปลี่ยนแปลง
       5. Learning Analytics – วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนแบบต่อเนื่อง เพื่อใช้ในการตัดสินใจเชิงหลักฐาน

ส่วนที่ 4 : กระบวนการดำเนินงาน (Model 5D)
    ขั้นตอน ชื่อกระบวนการ กิจกรรมหลัก บทบาทของครู บทบาทของ ก.ต.ป.น. เครื่องมือสำคัญ
     D1: Discover วิเคราะห์ปัญหาและเป้าหมาย วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์เดิม/สมรรถนะผู้เรียน สำรวจและตั้งเป้าหมายพัฒนา ให้คำปรึกษา กำหนดแนวพัฒนา Learning Analytics Dashboard
     D2: Design ออกแบบการสอนเชิงหลักฐาน เลือกกลยุทธ์จากงานวิจัยที่มี Effect Size สูง ออกแบบแผนการสอน ให้คำแนะนำ ตรวจสอบความสอดคล้อง Research Bank / Meta-analysis
     D3: Deliver ดำเนินการจัดการเรียนรู้ ทดลองใช้วิธีสอนใหม่ในชั้นเรียน ปรับใช้ตามบริบทจริง นิเทศ ติดตามแบบกัลยาณมิตร PLC Observation Tools
      D4: Detect วิเคราะห์ผลและวัด Effect Size เก็บข้อมูลก่อน–หลังการสอน วิเคราะห์ผลเชิงสถิติ ช่วยตีความผลเพื่อพัฒนาการนิเทศ Effect Size Calculator / Dashboard
       D5: Develop สรุปและขยายผล สะท้อนผลใน PLC แลกเปลี่ยน Best Practice รวบรวมแนวปฏิบัติที่ดี Reflection Template / ก.ต.ป.น. Report

ส่วนที่ 5 : ตัวอย่างการใช้จริง (กรณีศึกษา)
      โครงการ: พัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน ม.3
       - ฐานงานวิจัย: การใช้ “Feedback ที่เฉพาะเจาะจง” และ “การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative Learning)” ซึ่งมีค่า Effect Size > 0.70
       - ประสบการณ์ครู: พบว่านักเรียนมีแรงจูงใจต่ำเมื่อเรียนแบบบรรยาย
       - บริบทผู้เรียน: โรงเรียนชนบท ใช้สมาร์ทโฟนได้จำกัด
       - การสอน: ใช้กิจกรรม “อ่านข่าว–อภิปราย–ให้ข้อเสนอแนะเพื่อน”
       - ผลการวิเคราะห์: ค่า Effect Size = 0.52 (ระดับปานกลางถึงสูง)
       - การนำผลสู่การนิเทศ: ก.ต.ป.น. นำข้อมูลไปจัดทำรายงาน “แนวปฏิบัติที่ดี” (Best Practice) เพื่อขยายผลในโรงเรียนเครือข่าย

ส่วนที่ 6 : ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
      6.1 ครูมีสมรรถนะในการใช้ข้อมูลเชิงหลักฐานในการปรับปรุงการสอน
      6.2 ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านผลสัมฤทธิ์และพฤติกรรมการเรียนรู้ชัดเจน
       6.3 ก.ต.ป.น. มีข้อมูลเชิงประจักษ์เพื่อการนิเทศและตัดสินใจอย่างมีคุณภาพ
       6.4 โรงเรียนเกิดวัฒนธรรม “การเรียนรู้บนฐานข้อมูลจริง” (Data-informed School Culture)

ส่วนที่ 7 : สรุปและข้อเสนอแนะ
     - การใช้แนวคิด Evidence-Informed Teaching ร่วมกับการวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ผ่าน Effect Size และ Learning Analytics ช่วยให้การนิเทศของ ก.ต.ป.น. มีมิติใหม่ที่เน้น “ข้อมูลจริงมากกว่าความรู้สึก”
     - ส่งเสริมให้ครูเป็นผู้วิจัยในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง และขับเคลื่อนการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างมีทิศทาง
     - ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมคือการพัฒนา ศูนย์ข้อมูลการเรียนรู้ (Learning Data Center) เพื่อรวบรวมผลวิเคราะห์ของแต่ละโรงเรียนและใช้เป็นฐานกลางในการนิเทศแบบมีส่วนร่วมระดับเขตพื้นที่ต่อไป


ภาคผนวก : 

ภาคผนวก ก : แบบฟอร์มคำนวณค่า Effect Size

ภาคผนวก ข : ตัวอย่าง Dashboard Learning Analytics

ภาคผนวก ค : แบบสะท้อนผล PLC หลังการนิเทศ

ภาคผนวก ง : ตารางเปรียบเทียบ Effect Size ของกลยุทธ์การสอน




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Transformative Learning: Reflections on 40 Years of Head, Heart, and Hands at โรงเรียนธารทองพิทยาคม

การถกเถียงเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กจบลงที่โรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม (The Small Schools Debate Ends at MFP School)

สิ่งมีชีวิตไม่จำเป็นต้องตาย...